นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่ได้หารือกับหน่วยงานรัฐและเอกชน 24 หน่วยงาน ได้กำหนดเป้ามูลค่าการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดนของไทยในปี 2564 ที่มูลค่า 1.36 -1.40 ล้านล้านบาท จากปี 2563 มีมูลค่า 1.32 ล้านล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 3-6%
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่ามูลค่าการค้าชายแดน/ผ่านแดนของไทยปีนี้ จะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีปัจจัยบวกจาก 1.ทิศทางสถิติการค้าชายแดนและค้าผ่านแดนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค.-เม.ย.) เติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 26% 2. สินค้าไทยโดยเฉพาะผลไม้จำพวกทุเรียน ลำไย มังคุด มีภาพลักษณ์ทางด้านคุณภาพ ได้รับการยอมรับและเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศเพื่อนบ้านทั้งจีน เวียดนาม และสิงคโปร์ 3. แนวโน้มที่จะเปิดทำการด่านการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น อาทิ จุดผ่อนปรนการค้า บ้านแจมป๋อง จ.เชียงราย จุดผ่านแดนถาวร ท่าเทียบเรือนครพนม จ.นครพนม และ จุดผ่านแดนถาวร บ้านปากแซง จ.อุบลราชธานี เป็นต้น และ 4. กรมการค้าต่างประเทศมีแผนที่จะเร่งรัดจัดมหกรรมการค้าชายแดนทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเป็นเวทีกระตุ้นความต้องการสินค้าไทยได้อีกทางหนึ่ง
โชว์แผนขับเคลื่อนสู้โควิด
เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการผลักดันการค้าชายแดน ลดปัญหาอุปสรรคต่างๆ รวมถึงเร่งรัดการดำเนินการเปิดด่านเพื่อเสริมสร้างมูลค่าการค้าชายแดน เดิมกรมการค้าต่างประเทศวางแผนที่จะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงราย สงขลา สระแก้ว นครพนม จันทบุรี ยะลา แม่ฮ่องสอน และมุกดาหาร จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 8 ครั้ง โดยกิจกรรมฯ ครอบคลุม 1. การจัดงานแสดงและจัดจำหน่ายสินค้า 2. การจับคู่ธุรกิจ 3. การสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจหรือเกี่ยวข้องกับการค้าชายแดน และ 4. การจัดประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีฯ เป็นประธาน เพื่อกำหนดแนวทางลด/แก้ไขปัญหาการค้าชายแดนต่างๆ และหาทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันที
อย่างไรก็ดีหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายโดยเร็ว ทางกรมฯจะปรับเปลี่ยนแผนใหม่ โดยยังคงจัดกิจกรรมทั้ง 4 ด้าน ใน 8 จังหวัดข้างต้น ในรูปแบบ Hybrid โดยผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ครอบคลุมกิจกรรมจัดการแสดงสินค้าในรูปแบบ Virtual Trade Show และการจับคู่ธุรกิจในรูปแบบ OBM (Online Business Matching) มุ่งเน้นขายสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาด อาทิ ด้านกัมพูชา ที่มุ่งเน้นจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค เป็นต้น
ปิดกว่า 50 จุดยอดยังพุ่ง
“เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีผลให้การเปิดจุดผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีแค่ 46 แห่ง จาก 97 แห่ง แต่กลับพบว่า สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยขยายตัวต่อเนื่อง โดย 4 เดือนแรกปี 2564 มูลค่า 526,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.74% (กราฟิกประกอบ)
ทั้งนี้การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย เมียนมา ลาว และกัมพูชา) มีมูลค่า 295,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.95% แบ่งเป็นการส่งออก 180,583 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.22% และนำเข้า 114,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.15%โดยมาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่าการค้า 107,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.87% รองลงมา สปป.ลาว มีมูลค่าการค้า 71,165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.49% เมียนมา มูลค่าการค้า 60,182 ล้านบาท ลดลง 0.002% และกัมพูชามูลค่าการค้า 56,935 ล้านบาท ลดลง 4.50%
ส่วนการค้าผ่านแดนประเทศเพื่อนบ้านไปตลาดจีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ มีมูลค่า 230,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.93% แบ่งเป็นการส่งออก 133,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.57% และนำเข้า 97,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.64% โดยจีนเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้า 102,271 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.25% รองลงมา คือ สิงคโปร์ มีมูลค่าการค้า 36,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.57% เวียดนาม มีมูลค่าการค้ารวม 22,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.47% และประเทศอื่นๆ (อาทิ สหรัฐ ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น) มีมูลค่าการค้า 70,045 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.79%
ดันเปิดจุดผ่านแดนเพิ่ม
สำหรับปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนยอดการค้าชายแดน/ผ่านแดนให้เพิ่มขึ้น เช่น ด้านมาเลเซีย กระทรวงพาณิชย์ได้ทำ 1. ผลักดันการขนส่งสินค้าของไทยผ่านด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ และด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา ไปยังมาเลเซีย 2. ผลักดันมาเลเซียเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าผ่านด่านเบงกาลันกูโบ และบูกิต บุหงา ตรงข้ามด่านตากใบและบูเก๊ะตา จ.นราธิวาส และ 3. ผลักดันการเปิดจุดผ่านแดนขนส่งสินค้าช่วงโควิด-19 เพิ่มจาก 5 เป็น 9 แห่ง
ด้านเมียนมา ได้ทำ 1. ผลักดันการเปิดจุดผ่านแดนขนส่งสินค้าช่วงโควิด-19 เพิ่มจาก 3 เป็น 11 แห่ง 2. เปิดสะพานมิตรภาพไทย -เมียนมา แห่งที่ 2 จ.ตาก 3. ปรับเพิ่มมูลค่าการขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี จาก 5 แสนบาท เป็น 2 ล้านบาท
ด้านกัมพูชา ได้ทำ 1. ผลักดันการเปิดจุดผ่านแดนขนส่งสินค้าช่วงโควิด-19 เพิ่มจาก 5 เป็น 12 แห่ง 2. ผลักดันเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง จ.ตราด บ้านสวนส้มและบ้านซับตารี จ.จันทบุรี และ 3. แก้ไขปัญหาการส่งออกสุกรไปกัมพูชา กรณีที่กัมพูชากำหนดมาตรการจำกัดการนำเข้าสุกรจากไทย เป็นต้น
“ส่วน 2 ปัจจัยลบได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และสถานการณ์การเมืองในเมียนมา จากที่กรมได้ติดตามและประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เห็นว่ายังไม่กระทบกับภาคการส่งออกสินค้าของไทยแต่อย่างใด”นายกีรติ กล่าว
หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,684 วันที่ 3 - 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564