เปิด 10 กลุ่มธุรกิจดวงรุ่ง-เฝ้าระวังจากกำไรขั้นต้นปี 68

20 ธ.ค. 2568 | 05:12 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2568 | 05:12 น.

สสว. เปิด 10 กลุ่มธุรกิจดวงรุ่งและกลุ่มเฝ้าระวังจากการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ยจากกิจกรรมภายในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันปี 68

KEY

POINTS

  • สสว. เปิดเผยกลุ่มธุรกิจดาวรุ่งและกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังสำหรับปี 2568 โดยวิเคราะห์จากอัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้น
  • กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งที่เติบโตสูง ได้แก่ เครื่องจักรการเกษตร, อาหารจากสัตว์น้ำ, โลจิสติกส์, การออกแบบ และธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งได้แรงหนุนจากสังคมสูงวัยและการค้าออนไลน์
  • กลุ่มธุรกิจเฝ้าระวังที่กำไรขั้นต้นหดตัว คือ ที่พักนักศึกษา, รถยนต์มือสอง, ผลิตภัณฑ์ยาง และการขายเครื่องสำอาง ซึ่งเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

นางสาวปณิตา  ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ระบุข้อมูลกลุ่มธุรกิจดาวรุ่งและกลุ่มเฝ้าระวัง ประจำปี 2568 โดยวิเคราะห์จากการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ยและจัดกลุ่มจากลักษณะของกิจกรรมภายในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยกลุ่มธุรกิจดาวรุ่ง มีกำไรขั้นต้นเฉลี่ยเติบโตเกินกว่า 100% ซึ่งเติบโตสูงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ประกอบด้วย

  • ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ เติบโตจากการขยายตัวของการค้าออนไลน์และการเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีการใช้บริการการขนส่งสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น (มูลค่า GDP SME รวม160,877 ล้านบาท, อัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ย +500%)
  • การออกแบบ ARTWORK รูปแบบการจัดวาง การออกแบบงานสินค้า บริการ ก่อนการดำเนินการสื่อสาร หรือจัดทำจริงให้ตรงตามความต้องการ (มูลค่า GDP SME รวม 28,498 ล้านบาท, อัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ย + 430 %)
  • อาหารจากสัตว์น้ำ: ธุรกิจภาคการผลิตหลักเพื่อบริโภคในประเทศและการส่งออก (มูลค่า GDP SME รวม 25,600 ล้านบาท, อัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ย + 721 %)
  • เฟอร์นิเจอร์โลหะ การปรับเปลี่ยนไปใช้สินค้าเพื่อความคงทน คุ้มค่ามากขึ้น (มูลค่า GDP SME รวม 19,034 ล้านบาท, อัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ย + 110 %)
  • วีดิโอเกมและซอฟต์แวร์ ก็เป็นกลุ่มดาวรุ่งเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ ความบันเทิงและการใช้งานอย่างยั่งยืน (มูลค่า GDP SME รวม11,015 ล้านบาท, อัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ย + 191 %)
  • เครื่องจักร อุปกรณ์ และเครื่องใช้ทางการเกษตร: รองรับการปรับตัวสู่เกษตรกรรมยุคใหม่จากสังคมสูงวัย (มูลค่า GDP SME รวม3,018 ล้านบาท, อัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ย + 832 %)
  • ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ : จากการที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ (มูลค่า GDP SME รวม 901 ล้านบาท, อัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นเฉลี่ย + 241 %)

ขณะที่กลุ่มธุรกิจเฝ้าระวัง กำไรขั้นต้นหดตัวเฉลี่ยมากกว่า 50% เป็นกลุ่มธุรกิจซึ่งเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี พบว่า

  • การขายเครื่องสำอางเผชิญกับการแข่งขันสูงทั้งจากผู้ค้าและผู้ผลิตซึ่งผู้บริโภคสามารถซื้อผ่านออนไลน์จากผู้ผลิต/ผู้ค้าโดยตรงจากต่างประเทศได้มากขึ้น (มูลค่า GDP SME รวม 22,173 ล้านบาท, อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยหดตัว -50%)
  • การขายรถยนต์มือสอง ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า และการปรับราคารถยนต์ใหม่ (มูลค่า GDP SME รวม13,390 ล้านบาท, อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยหดตัว -97%)

• ผลิตภัณฑ์ยาง เผชิญกับการแข่งขันสูงโดยเฉพาะสินค้านำเข้า(มูลค่า GDP SME รวม 10,454 ล้านบาท, อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยหดตัว -76%)

• ที่พักอาศัยนักเรียน/นักศึกษา ได้รับผลกระทบจากรูปแบบการเรียนแบบ Hybrid และความต้องการที่พักที่ทันสมัยอิสระมากขึ้น (มูลค่าGDP SME รวม 1,014 ล้านบาท, อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยหดตัว -165%)