ค้าปลีกปี’69 โตต่ำ ไร้พลังขับเคลื่อน แนะติดอาวุธ AI ปลดล็อกศักยภาพคน

19 ธ.ค. 2568 | 22:31 น.

ชี้ทิศค้าปลีกปี 2569 ไร้ปัจจัยขับเคลื่อนหลังยุบสภา หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อไม่ฟื้น ฉุดธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งโตต่ำ แนะใช้ AI ปลดล็อกศักยภาพองค์กร ขณะที่ปี 2568 คาดภาพรวมเติบโต 3% จากอานิสงส์คนละครึ่งพลัสในโค้งท้าย

KEY

POINTS

  • คาดการณ์ว่าธุรกิจค้าปลีกปี 2569 จะเติบโตในระดับต่ำ โดยเฉพาะไตรมาสแรกที่อาจขยายตัวเพียง 0.5-1.0%
  • การเติบโตที่ชะลอตัวเป็นผลมาจากการขาดปัจจัยขับเคลื่อนหลัก เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่อาจหยุดชะงักลงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
  • ข้อเสนอแนะสำหรับภาคธุรกิจคือการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ควบคู่ไปกับการลงทุนพัฒนาทักษะและศักยภาพของบุคลากร

เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ของปี 2568 ขยายตัว 1.2% ลดลงจาก 2.8% ในไตรมาส 2 โดยมีผลกระทบจากการลดลงของความเชื่อมั่นในภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่ภาคค้าปลีกและค้าส่งก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ในระยะยาว ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวเพียง 2.0% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่คาดไว้

โดยเฉพาะในภาคค้าปลีก-ค้าส่งและบริการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการลดลงของกำลังซื้อจากภาครัฐที่ไม่สามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ ในช่วงรัฐบาลรักษาการได้ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่น (Retail Sentiment Index) ของผู้ประกอบการค้าปลีกในไตรมาสที่สามยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 จุด ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงในอนาคตของธุรกิจนี้

ดร. ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ เลขาธิการสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งเอเชียแปซิฟิก (FARPA) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทิศทางเศรษฐกิจและการค้าปลีกในปี 2569 แม้จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่ธุรกิจค้าปลีกยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สูง โดยเฉพาะจากสถานการณ์ทางการเมืองที่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุนและกำลังซื้อของผู้บริโภค

การประเมินเบื้องต้น หากการยุบสภาเกิดขึ้นในปลายเดือนม.ค. 2569 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเป็น ปัจจัยขับเคลื่อนหลัก Growth drivers ในไตรมาส 1/2569 ทั้งจาก 1. โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ คนละครึ่งพลัสเฟส 2 2. โครงการ “ช้อปดีมีคืน” (Easy E-Receipt ) 3. การเร่งรัดการลงทุนและการใช้จ่ายของภาครัฐซึ่งมีอยู่ราว 8 แสนกว่าล้านบาท

4. การท่องเที่ยว และ 5. เงินหมุนเวียนจากการเลือกตั้ง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศและยอดขายค้าปลีก-ค้าส่งและการบริการในไตรมาส 4/2568 และต่อเนื่อง ถึง ไตรมาส 1/2569 เติบโตเฉลี่ย 1.0-3.0%

อย่างไรก็ดี หลังการประกาศยุบสภาในวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจัยขับเคลื่อนทั้งหมดหายไปเหลือเพียงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในต้นเดือนก.พ. 2569 ที่จะสร้างให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจราว 2 แสนล้านบาทจากการจัดการเลือกตั้ง และเม็ดเงินที่ใช้จ่ายในการหาเสียง ซึ่งจะกระตุ้นการเติบโตของภาคค้าปลีก-ค้าส่งและบริการได้แค่ 0.5-1.0% จากที่ประเมินก่อนหน้านี้ที่จะเติบโต 1-3%

ค้าปลีกปี’69 โตต่ำ ไร้พลังขับเคลื่อน แนะติดอาวุธ AI ปลดล็อกศักยภาพคน

“ปี 2569 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจค้าปลีก โดยมองว่าอัตราการเติบโตในไตรมาสแรกจะต่ำลงมาก การขยายตัวจะอยู่ที่ 0.5-1.0% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าในไตรมาสที่สี่ของปี 2568 ที่คาดว่าจะเติบโตถึง 3% นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน และการยืดเยื้อของการเลือกตั้งที่ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถูกหยุดชะงัก”

ดร.ฉัตรชัย ย้ำว่า ปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2569 คือการเพิ่มขึ้นของภาระหนี้ครัวเรือน ซึ่งอาจลดทอนกำลังซื้อภายในประเทศ และทำให้ภาคค้าปลีกและค้าส่งต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น การลดลงของการลงทุนใหม่ ๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงธุรกิจค้าปลีกที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก

“ธุรกิจในภาคค้าปลีกต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก การใช้เทคโนโลยี AI จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ โดยการบูรณาการ AI อย่างเข้มข้นจะช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อในทุกช่องทาง นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยในการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า และเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินงาน

การปลดล็อกศักยภาพบุคลากรภายในองค์กรก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ โดยองค์กรต้องลงทุนในการพัฒนาทักษะของพนักงาน เพื่อให้สามารถเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจอย่างยั่งยืน การสร้างความเข้มแข็งภายในองค์กรและการปรับปรุงกระบวนการทำงานจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรับมือกับความท้าทายและสามารถเติบโตในภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากได้”

ดร. ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์

การพัฒนาเทคโนโลยี AI จะช่วยสร้างการเชื่อมต่อที่ไม่ซับซ้อนระหว่างธุรกิจและลูกค้า โดยที่ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถใช้ AI ในการคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้า และพัฒนาระบบการจัดการสินค้าคงคลังแบบอัตโนมัติ AI ยังสามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากลูกค้ารวมถึงประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดที่ใช้งานอยู่ ซึ่งการใช้ AI สามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผล

องค์กรควรที่จะเน้นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อให้พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจยุคใหม่ โดยการจัดหาหลักสูตรการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ การเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงาน และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การปรับปรุงวิธีการสื่อสารภายในองค์กรและการให้ฟีดแบ็คที่สร้างสรรค์จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพนักงาน และทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาของบุคลากร

ค้าปลีกปี’69 โตต่ำ ไร้พลังขับเคลื่อน แนะติดอาวุธ AI ปลดล็อกศักยภาพคน

การค้าปลีกในปี 2569 ยังเต็มไปด้วยความท้าทายและความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ภาคค้าปลีกต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง ด้วยการใช้กลยุทธ์ที่เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ภาคธุรกิจค้าปลีกต้องเดินหน้าด้วยการมองระยะยาวและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมภาคค้าปลีก-ค้าส่งและบริการในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตราว 3.0% จากปีก่อน โดยพบว่า ยอดขายหมวดสินค้า FMCG ในกลุ่ม Convenience และ Supermarket ขยายตัว 2.5-3.5% และ Hypermarket/ Wholesale ขยายตัว 3-5% ซึ่งการขยายตัวเกิดจากการขยายสาขาเป็นหลัก ขณะที่ การเติบโตจากสาขาเดิม (SSSG) ทรงตัวถึงติดลบ ส่วนกลุ่ม Local Modern Trade ขยายตัวดีเติบโต 7-10%

ขณะที่ยอดขายกลุ่มภัตตาคาร ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่เป็น Chain ขยายตัว 5.5% ขณะที่ร้านอาหาร SME ขยายตัว 3.5% จากอานิสงส์โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ในไตรมาสสุดท้าย ส่วนยอดขายหมวดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกขยายตัว 1.5% หมวดสินค้าแฟชั่นแบรนด์หรู ไลฟ์สไตล์ ขยายตัวติดลบ 1-3% จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลง หมวดสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและรองเท้า และกลุ่มหนังสือและเครื่องเขียนขยายตัว 1.0% หมวดสินค้าวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่ง-ซ่อมบำรุง เติบโต 1.5-2.0%

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,159 วันที่ 21 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568