สปสช. เพิ่มยา 3 รายการ 1 วัคซีน สิทธิประโยชน์ใหม่ "กองทุนบัตรทอง"

19 มิ.ย. 2566 | 09:20 น.

ข่าวดี บอร์ด สปสช. เห็นชอบ "วัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์" สำหรับให้บริการหญิงตั้งครรภ์พร้อมเพิ่มยา 3 รายการ เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่กองทุนบัตรทอง มีอะไรบ้าง ตรวจสอบรายละเอียดได้ที่นี่  

จากการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บอร์ด สปสช. ครั้งที่ 7/2566 มีวาระเรื่องพิจารณา "ข้อเสนอรายการยาที่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ" ซึ่งเสนอโดยคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุขนั้น

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบยา 3 รายการ เพื่อให้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพื่อให้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ดังนี้ 

1.ยาโปรทรอมบินคอมเพล็กซ์เข้มข้น (aPCC) สำหรับรักษาภาวะเลือดออกในผู้ป่วยฮีโมฟีเลียที่มีสารต้านแฟคเตอร์สูง 

2.ยาคาร์กลูมิคแอสิด (carglumic acid) สำหรับรักษาภาวะแอมโมเนียในเลือดสูงในผู้ป่วยโรคหายาก 3 โรค ได้แก่ 

  • ภาวะพร่องเอนไซม์ N-acetylglutamate synthase หรือ NAGS deficiency 
  • โรคกรดเมทิลมาโลนิกคั่งในเลือด (methylmethylmalonic acidemia)
  • โรคกรดโพรพิโอนิกคั่งในเลือด (propionic acidemia) 

3.ยาโซมาโทรปิน (somatropin) สำหรับผู้ป่วยขาดโกรทฮอร์โมน (growth hormone deficiency) อายุ 0-2 ปี ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ 

4.วัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ (acellular pertussis vaccine) สำหรับหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ ซึ่งเป็นวัคซีนที่วิจัยและพัฒนาในประเทศและอยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทย

นอกจากนี้ บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบการปรับแผนและวงเงินการจัดหายาฯ ปีงบประมาณ 2566 เพื่อจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์จำนวน 110,000 โด้ส ในวงเงินไม่เกิน 41,397,849 บาท โดยให้จัดซื้อจากรายการในบัญชีนวัตกรรมไทยทั้งหมด

ทั้งนี้ สปสช. มีนโยบายที่ให้การสนับสนุนบัญชีนวัตกรรมในประเทศ โดยวัคซีนที่ฉีดให้กับหญิงตั้งครรภ์นี้ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคไอกรนให้กับทารกแรกที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนโดยตรงได้ และลดอัตราการป่วยหรือนอนโรงพยาบาลจากโรคไอกรนได้

สำหรับรายการยาที่ บอร์ด สปสช.ได้เห็นชอบและบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ใหม่เพิ่มเติมในระบบบัตรทอง 30 บาทในครั้งนี้เป็นไปตามที่อนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้พิจารณาแล้วว่า เป็นยาที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลในการรักษา รวมถึงวัคซีนที่มีประสิทธิผลในการป้องกัน ทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองได้รับการดูแลและรักษาที่ดีขึ้นจากยาใหม่ที่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและช่วยให้แพทย์มียาที่ให้บริการเพิ่มขึ้น

ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขและรองนายกฯ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป