เจรจาล่ม! ‘โรงงานสับปะรด’ บุกกรุงยื่นแก้กฎหมายต่างด้าว

เจรจาล่ม ‘วิรัช’ เตรียมบุกกรุงยื่นหนังสือถึง “เฉลิมชัย-หม่อมเต่า”  ระบุ ทำตามแนะนำกรมสวัสดิการฯ ประจวบฯ แนะแก้กฎกระทรวงปัญหาแรงงานต่างด้าวโรงงานสับปะรด เผยมีโรงงานตกเป็นเหยื่อเซ็นเอ็มโอยูแล้ว ซ้ำร้ายโดนกฎหมายเล่นงานย้อนหลังระนาว เดือด! ถึงขั้นปิดโรงงานเผ่นหนีสัญญาไม่เป็นธรรม

นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทย  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ผมไม่ได้บอกว่าผมจะหยุดผลิต แต่ผมไม่สามารถเปิดได้เพราะว่า ถ้าให้ผมจ่าย 1 หมื่นบาท ทำเอ็มโอยู อย่างโรงงานผมจ้างแรงงาน 700 คน  ก็คือ 7 ล้านบาทต่อปี (เดือนละ 1 หมื่นบาท) ตามเอ็มโอยูต้องทำงานครบ 12 เดือน ทั้งที่ทำงานจริงแค่ 9 เดือนเท่านั้น ทาง กรมสวัสดิการฯ ก็แย้งมาว่าเป็นไปได้อย่างไรโรงงานจะมาทำงานแค่ฤดูการผลิต เป็นไปไม่ได้โรงงานไม่มีฤดูกาล ผมก็สวนว่านี่ เป็นโรงงานสับปะรด แล้วไม่มีผลผลิตจะเอาเครื่องจักรสับปะรดไปผลิตอะไร

“โรงงานของผมแค่ 20 ล้านบาท ผมปิดดีกว่า ไม่เปิดการผลิตผมเสียใจ ร้องไห้ในใจ แต่ถ้าเปิดแล้วตาย แล้วก็มีข่าวว่าโรงงานไม่มีจ่ายค่าแรงงาน ผมยอมเจ็บดีกว่ายอมตาย พอพูดไปอย่างนี้พวกกลุ่มเอ็นจีโอโวยวายใหญ่ว่าทำอย่างนี้ไม่ได้  ทางสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แนะนำผมในที่ประชุมให้ไปยื่นหนังสือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อแก้ไขกฎกระทรวงใหม่ ส่งเข้า ครม.เห็นชอบ คาดว่าจะไปยื่นหนังสือในเร็วๆนี้

นายวิรัช  กล่าวว่า ผมก็ไม่เข้าใจทางกรมสวัสดิการฯ จะไปกลัวกลุ่มเอ็นจีโอทำไม อ้างว่าหากไม่ปฎิบัติตามทางกลุ่มยูเอ็น แล้วกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ต่อต้าน ผมก็บอกไปว่าที่นี่ประเทศไทย ไม่ใช่ขี้ข้า ไม่ใช่เมืองขึ้น  จะได้ปฏิบัติตามทุกอย่าง แล้วการนำเอากฎหมายต่างประเทศมาใช้ในประเทศไทย ไม่มีที่ไหนหรอก อย่างประเทศ ฟินแลนด์ ต้นตำรับเอ็นจีโอ จ้างแรงงานไทยไปปอกผลไม้ ยังจ้างเป็นรายวัน เป็นต้น สุดท้ายเมื่อไม่ได้ข้อยุติ ต้องล้มเลิกการพูดคุยหารือกันแค่นั้น ต่างฝ่ายต่างเดินออกจากห้องกันไป

“ตอนนี้สถานะประมงกับโรงงานสับปะรดเหมือนกันน้ำตาตกใน ทางฝ่ายกรมการจัดหางานอ้างเรื่องเทียร์ ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาจัดให้ไทยอยู่ในระดับ Tier 3 ยกขึ้นมาระดับเทียร์ 2 ผมก็ย้อนมาไปว่ายกแล้ว ประมงก็ตายไปเรียบร้อยแล้ว ผลที่ตามมาก็คือคนไทยกินปลาทูจากตัวละ 50 บาท เป็นตัวละ 150 บาท เพราะเรือหลายหมื่นลำขายให้อินโดนีเซีย กัมพูชา และเมียนมาไปหมดแล้ว”

ในระหว่างการหารือผมก็เปิดเผยแล้วบอกว่าอัดเทป แล้วมีสมาชิกกว่า 10 โรงเข้าร่วมประชุมด้วย เพราะเดือดร้อนกันหมด หากโรงงานไปไม่ไหวก็ต้องปิด แล้วผมก็ได้แจ้งให้ทราบด้วย ไม่ใช่ผมเอาเกษตรกรเป็นตัวประกัน แต่อยากให้เกษตรกรรับรู้ว่าผมจะปิดโรงงานผมอยู่ไม่ได้  หากเป็นอย่างนี้แล้วไม่มีการแก้ไขผมคงไม่กล้าเปิด

“ทางกรมสวัสดิการฯ จะฟ้องโรงงานผม เรียกค่าเสียหายที่จะไม่จ่ายค่าจ้างแรงงานต่างด้าว 3 เดือน ผมก็สวนว่าผมยังไม่ได้เซ็นเอ็มโอยูเลย ส่วนโรงงานที่เซ็นไปแล้วในขณะนี้ทราบข่าวกำลังถูกกฎหมายเล่นงานหลายล้านบาท ในตอนที่เซ็นสัญญาจ้างไม่แน่ใจว่าทางโรงงานทราบหรือไม่ว่าจะต้องจ่าย 12 เดือน” นายวิรัช  กล่าวในตอนท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

1. https://www.thansettakij.com/content/409166 โรงงานขู่ไม่เปิดการผลิตต้องถอยแรงงานต่างด้าว

2.https://www.thansettakij.com/content/409188  คนละเรื่องกัน! อย่าจับเกษตรกรเป็นตัวประกัน

3.https://www.thansettakij.com/content/409327 11 ก.ย.นัดผ่าวิกฤติ ‘แรงงานต่างด้าว’ โรงงานสับปะรด