"ภูมิธรรม"จ่อเคาะ 30 อรหันต์แก้รัฐธรรมนูญ ชงครม. 3 ต.ค.นี้ ยึดปี 40 ตัวตั้ง

23 ก.ย. 2566 | 10:02 น.

“ภูมิธรรม”จ่อเคาะ 30 อรหันต์แก้รัฐธรรมนูญ “ชูศักดิ์ ศิรินิล-นิกร จำนง” ตอบรับแล้ว วาง 5 กรอบเสร็จใน 4 ปี เสนอเข้า ครม. 3 ต.ค.นี้ เล็งนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 เป็นตัวตั้ง

วันนี้(23 ก.ย. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานบุคคลที่จะเข้าร่วมในคณะกรรมการชุดนี้ เบื้องต้นวางไว้ไม่เกิน 30 คน โดย

1. จะเป็นบุคคลที่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ

2. มีตัวแทนจากพรรคการเมืองให้มากที่สุด ครอบคลุมทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน

3. จะร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รวมทั้งออกกฎหมายลูกให้ทันภายใน 4 ปีของรัฐบาลชุดนี้ เพื่อให้ทันใช้กติกาใหม่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
 

4. รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมีความเป็นประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ เมื่อร่างออกมาแล้วจะต้องเห็นพ้องต้องกัน และต้องมั่นใจว่าจะผ่านการพิจารณาของรัฐสภาด้วย

5. เรายืนยันชัดเจนว่าจะไม่มีการแตะต้องหมวด 1 หมวด 2 รวมถึงหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ ซึ่งประเด็นนี้สำคัญที่สุด

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการตอบรับจากบุคคลในส่วนของพรรคการเมืองมาบ้างแล้ว อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งทั้งคู่มีความเข้าใจกฎหมาย และจับงานด้านรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด

นายภูมิธรรม คาดว่า รายชื่อของคณะกรรมการฯ จะเรียบร้อยภายในวันที่ 29 ก.ย.นี้ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 3 ต.ค.นี้ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้คณะกรรมการฯ ครบแล้ว ตนจะเรียกประชุมทันที เพื่อหารือถึงไทม์ไลน์ กรอบการทำงานที่ชัดเจน รวมถึงการจัดทำประชามติว่าจะเป็นอย่างไร ทำได้กี่ครั้ง คำถามจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ ถ้าจะให้เกิดความรวดเร็ว อาจจะต้องนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นตัวตั้ง แต่จะต้องปรับเนื้อหาให้เข้ากับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดจะต้องหารือในคณะกรรมการฯ อีกครั้ง

“ผมยืนยันว่า เราจะจัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย โดยยึดแนวคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะต้องจัดทำอย่างไร โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าจะต้องไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 รวมถึงหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างเงื่อนไขหรือเป็นประเด็นในสังคม” นายภูมิธรรม กล่าว