"กินเจ 2564" เริ่มขึ้นแล้ว ทีแน่ๆ เราควรเลือกกินอาหารที่สมดุลและหลากหลาย เพื่อให้ได้รับสารอาหารสำคัญอื่น ๆ นอกเหนือจากแป้งและไขมัน ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน แคลเซียม วิตามินบี วิตามินดี กรดไขมันโอเมก้า 3 หรือธาตุเหล็ก
งานนี้ได้ทั้งบุญและสุขภาพดีไม่เสี่ยงโรคภัยไขเจ็บอีกด้วย
11 เทคนิค กินเจเพิ่มแต้มบุญ สุขภาพดีไม่เสี่ยงโรค
1. กินผักและผลไม้อย่างน้อย 5 หน่วยบริโภคต่อวัน โดยใน 1 หน่วยบริโภคอาจเทียบเท่ากับ ถั่วงอก ผักกาดขาว ผักบุ้ง กะหล่ำปลี คะน้า หรือเห็ดหอม 1 ทัพพี อะโวคาโดหรือสาลี่ 1 ผล ส้มหรือลูกพลับครึ่งผลกลาง แอปเปิ้ล 1 ผลเล็ก
2. กินธัญพืชให้มากขึ้น ทั้งจากธัญพืชทั่วไป ธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย หรือธัญพืชเทียม เช่น ถั่วเหลือง งาดำ งาขาว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ถั่วแดง ถั่วเขียว ซึ่งถือเป็นแหล่งแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายหลาย
3. ดื่มนมถั่วเหลืองเพื่อทดแทนโปรตีนที่หายไปจากการงดกินเนื้อสัตว์และนมวัว โดยนมถั่วเหลืองจะปราศจากคอเรสเตอรอล มีไขมันชนิดอิ่มตัวต่ำ นมถั่วเหลืองพร้อมดื่มยังมีให้เลือกหลากหลายสูตร
4. เลือกกินอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไขมันดีหรือกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fat) โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า อะโวคาโด ถั่วเหลือง เมล็ดเจีย
5.ระมัดระวังในการกินเนื้อสัตว์เทียม เพราะมีปริมาณแป้งและน้ำมันค่อนข้างมาก
6.อาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด หรือใส่เครื่องปรุงที่มีปริมาณเกลือสูงอย่างซอสถั่วเหลือง เต้าหู้ หรือเต้าเจี้ยว เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิต โรคเบาหวาน หรือโรคอ้วน
7.ควรล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนนำประกอบอาหารหรือรับประทาน เพื่อป้องกันสารเคมีที่อาจตกค้างและก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
8. อ่านส่วนผสมหรือส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยให้เลือกปริมาณน้ำตาล ไขมัน และเกลือที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคไต
9. ดื่มน้ำสะอาด 6-8 แก้วต่อวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่
10.อาหารหมักดอง มีโซเดียมสูงมาก หากทานบ่อยๆ จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคไต และความดันโลหิตสูงได้
11.ไม่ทานอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ เพราะสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะโปรตีนที่หากไม่ได้ทานเนื้อสัตว์