บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เงินลดค่าไฟ-ค่าน้ำ โอนเข้าวันไหนเช็คสิทธิที่นี่

16 มี.ค. 2565 | 17:05 น.

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เงินลดค่าไฟ-ค่าน้ำ มีเงินโอนเข้าวันไนเช็คเงื่อนไขผู้ที่ได้รับสิทธิส่วนลดได้ที่นี่

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เงินลดค่าไฟ-ค่าน้ำ  กรมบัญชีกลาง ได้กำหนดวันโอนเงินให้กับผู้ถือบัตร  สำหรับรายละเอียดผู้ที่ได้รับสิทธิมีดังนี้

 

วันที่ 18 มีนาคม 2565

  • เงินคืนค่าไฟฟ้า  ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
  • เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน 
  • สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง
  • สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

 

วันที่ 22 มีนาคม มีโอนอีกรอบ ดังนี้

  • กรมบัญชีกลาง โอนเงินประจำเดือนรอบสุดท้าย (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้) มีบัตรประจำตัวคนพิการ ได้รับเบี้ยความพิการ (บัญชีธนาคาร/อปท.) จำนวน 800 บาท 
  • เบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน โอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถึงเดือนกันยายน 2565 จาก รวมเป็นเงิน 1,000 บาท 
  • เบี้ยความพิการโครงการเราชนะ สำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ผ่านบัตรประชาชน เช่นผู้ป่วยติดเตียง พิการ ผู้ป่วยสูงอายุ จำนวน 200 บาท (เป็นระยเวลา 3 เดือน เริ่มเดือนก.พ.-เม.ย.) สามารถกดเป็นเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ได้อีกด้วย
  • สามารถถอนและกดเป็นเงินสดได้ สะสมในเดือนถัดไปได้

 

 

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เงินค่าไฟ-ค่าน้ำ

ส่วนความคืบหน้า เปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม นี้

คุณสมบัติผู้ลงทะเบียนรอบใหม่ 

  • สัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • ไม่เป็นข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ผู้ต้องขังแล้ว
  • มีรายได้ส่วนตัวเฉลี่ยของครัวเรือนต่อคนไม่เกิน 1 แสนบาท 
  • ไม่มีทรัพย์สินทางการเงินได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ เฉลี่ยเกิน 100,000 บาทต่อคน 
  • จะต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ เกินกำหนด เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ พื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
  •  ห้องชุดไม่เกิน 35 ตารางเมตร
  • ส่วนที่ดินเพื่อการเกษตรไม่เกิน 10 ไร่
  • ที่ดินทั่วไปไม่เกิน 1 ไร่ 
  • ไม่มีบัตรเครดิต 
  • ไม่มีเงินกู้เกินที่กำหนด  เช่น กู้สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1.5 ล้านบาท วงเงินกู้รถยนต์ไม่เกิน 1 ล้านบาท.

 

ที่มา: กรมบัญชีกลาง