โควิด-19 ฉุดยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปี 64 ลดลง 3.5%

02 ก.พ. 2565 | 11:03 น.

โควิด-19 ฉุดยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปี 64 ลดลง 3.5% เผยน้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลงมากสุด 36% กลุ่มเบนซินลดลง 8.5% กลุ่มดีเซลลดลง 3.5%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันปี 2564 (มกราคม – ธันวาคม) ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2563 ประมาณ 3.5% โดยการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง 36% กลุ่มเบนซินลดลง 8.5% กลุ่มดีเซลลดลง 3.5% น้ำมันก๊าดลดลง 6.3%

 

อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 15.6% LPG เพิ่มขึ้น 7.4% สำหรับการใช้ NGV ลดลง 19.1%  

 

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน ปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.03 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากปี 2563 (ลดลง 8.5%) โดยปริมาณการใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์ลดลงมาอยู่ที่ 28.37 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 8.3%) การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ อี20

 

และแก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลงมาอยู่ที่ 6.90 ล้านลิตร/วัน 14.90 ล้านลิตร/วัน 5.79 ล้านลิตร/วัน และ 0.78 ล้านลิตร/วัน สำหรับการใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.66 ล้านลิตร/วัน

เมื่อพิจารณาภาพรวมตลอดทั้งปี พบว่า การใช้กลุ่มเบนซินในเดือนมกราคมอยู่ในระดับต่ำที่ 27.31 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 (โควิด-19) ในสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียง 

 

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว มีทิศทางดีขึ้น การเดินทางและการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจจึงเริ่มกลับสู่ภาวะปกติในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม โดยการใช้กลุ่มเบนซินอยู่ที่ 32-34 ล้านลิตร/วัน

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมาสู่ระดับรุนแรงในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ภาครัฐจึงมีมาตรการจำกัดการเดินทางและปิดสถานประกอบการบางประเภทในช่วงกลางปี ส่งผลให้การใช้กลุ่มเบนซินแตะระดับต่ำสุดที่ 24.52 ล้านลิตร/วัน ในเดือนสิงหาคม 

 

สถานการณ์การแพร่ระบาดในช่วงไตรมาส 4 มีทิศทางดีขึ้นและประชาชนได้รับวัคซีนมากขึ้น ประกอบกับการคลายล็อคดาวน์ นโยบายเปิดประเทศ และการกระตุ้นเศรษฐกิจ ความต้องการใช้น้ำมันจึงเติบโตอีกครั้ง โดยการใช้กลุ่มเบนซินแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ที่ 33.71 ล้านลิตร/วัน ในเดือนธันวาคม

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล ปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 63.13 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากปี 2563 (ลดลง 3.5%) สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้ลดลงมาอยู่ที่ 39.84 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 9%) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.25 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.99 ล้านลิตร/วัน
 

 

ภาพรวมการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลปี 2564 มีความผันผวนอย่างมาก โดยในช่วงต้นปีปริมาณการใช้ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างจำกัด ส่งผลให้ในช่วงกลางปีการใช้กลุ่มดีเซลอยู่ในระดับต่ำและแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปีที่ 53.27 ล้านลิตร/วัน ในเดือนสิงหาคม

 

ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวอย่างมากในช่วงปลายปี โดยแตะระดับสูงสุดที่ 77.01 ล้านลิตร/วัน ในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ สัดส่วนการใช้ บี7 บี10 และบี20 ในดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 92.3% ,7.3% และ 0.4% 

 

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.67 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากปี 2563 (ลดลง 36%) เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 โดยปริมาณการใช้อยู่ในระดับต่ำตลอดทั้งปีที่ 4-5 ล้านลิตร/วัน

 

อย่างไรก็ตาม การใช้ Jet A1 ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม หลังการปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การผ่อนคลายมาตรการ

 

นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน

 

การบินและการเดินทางเข้าประเทศ และการมีวันหยุดยาวและเทศกาลปีใหม่ โดยการใช้ Jet A1 ในเดือนธันวาคมแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีที่ 6.76 ล้านลิตร/วัน อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ Jet A1 ได้รับแรงกดดันจาก COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)

 

ทำให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประกาศห้ามเที่ยวบินจาก 8 ประเทศในแอฟริกาเข้าไทยตั้งแต่ 1 ธันวาคม และ ศบค. มีมติให้ระงับการลงทะเบียนขอเข้าไทยแบบ Sandbox (ยกเว้นภูเก็ต) และ Test and Go ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม

 


การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 16.52 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 (เพิ่มขึ้น 7.4%) เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.26 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 19.1%) และการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.87 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 11.6%) 

 

สำหรับภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 5.65 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 1.6%) อย่างไรก็ตาม การใช้ในภาคขนส่งลดลงมาอยู่ที่ 1.74 ล้านกก./วัน (ลดลง 14.8%)
 

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.12 ล้านกก./วัน ลดลงจากปี 2563 (ลดลง 19.1%) โดยเป็นผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ลดลง การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 898,054 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 (เพิ่มขึ้น 0.9%) 

 

โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 863,232 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น 2.1%) มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 60,672 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 63%) สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) ลดลงมาอยู่ที่ 34,822 บาร์เรล/วัน (ลดลง 22.7%) คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 2,343 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 20.4%)
 

 

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปปี 2564 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ไบโอดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 203,182 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น 9.3%) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม15,141 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 81.7%)