ปฎิบัติการทวงเงินประกันรายได้ข้าว งวด1 รอลุ้นผล

04 พ.ย. 2564 | 04:38 น.

“เงินประกันรายได้ข้าว” งวด1 เก้อ นัด ไม่เป็นนัด ไหนบอกหลัง 3 วัน ธ.ก.ส. จะโอนตรงเข้าบัญชี ชาวนา นายกสมาคมชาวนาฯ ชาวนา เดือด รัฐบาลขายฝัน อย่าจับชาวนาเป็นตัวประกัน ซ้ำเติมข้าวราคาตกต่ำในรอบ 10 ปี

โครงการประกันรายได้ข้าว ปี 3 ยังคงลุ่มๆ ดอนๆ ขรุขระ ท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัส "โควิด-19" กำลังคุกคามไปทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่เมืองไทย ปัจจุบันมีวัคซีนก็จริง แต่ยังไม่สามารถป้องกันได้  แต่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้เท่านั้น  ล่าสุด งวดที่1 “ประกันรายได้ข้าว” ได้เห็นชอบแล้ว อธิบดีกรมการค้าภายใน แจ้งว่า ให้ ธ.ก.ส.โอนให้ 3 วันทำการ  (เคาะราคา เมื่อวันที่ 29 ต.ค.64) แต่กลับไม่เป็นตามนั้น

ปราโมทย์ เจริญศิลป์

 

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ไหนว่าอนุมัติเห็นชอบแล้ว ในโครงการประกันรายได้ข้าว  งวด1 อธิบดีกรมการค้าภายใน  แจ้งว่า ธ.ก.ส. จะโอนเงินให้ 3 วัน ทำการ ทำไมยังไม่มีสักบาทเข้ามาเลย มีชาวนาหลายคนโทรมาต่อว่า กันมากมาย จะโอนให้เมื่อไรขอให้ชัดเจน  อย่างน้อยถ้าจะไม่มีเงิน “ประกันราคาข้าว” ก็ขอให้เงินค่าช่วยช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 2 หมื่นบาท จ่ายมาก่อน จะได้เงินไปชำระหนี้ ใช้ซื้อปุ๋ย เพราะตอนนี้ราคาแพงมาก

 

สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอดในขณะนี้ราคาข้าวตกต่ำลงทุกชนิด ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะต่ำสุดในรอบ 10 ปี  ทั้งนี้ทางสมาคมชาวนาได้ติดตามสถานการณ์ข้าว  เข้าใจว่าสิ่งที่กระทบต่อราคาข้าวไทยหลักๆคือเรื่องของการส่งออก พวกค่าบรรทุก ตู้คอนเทนเนอร์ ที่มีปัญหาสืบเนื่องมาจากโควิด19 

ทั้งนี้เดิมข้าวไทยราคาสูงกว่าเพื่อนบ้านมาก  แต่ในขณะนี้ได้ปรับลงมาก  และผลกระทบของราคาที่ปรับลงนี้ก็ กระทบต่อชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวอยู่ในขณะนี้ค่อนข้างมาก อีกทั้งการเก็บเกี่ยวของชาวนาโดยปกติจะเป็นการเก็บเกี่ยวที่เป็นข้าวสดและนำไปขาย  เป็นข้าวเกี่ยวสด คือข้าวที่มีความชื้นมาก

 

นายปราโมทย์ กล่าวว่า ในส่วนมาตรฐานความชื้นข้าวคือมีความชื้นที่ 15%)  ชาวนาเกี่ยวข้าวสดที่ความชื้น 28-30% ก็จะถูกหักลดน้ำหนักความชื้น  ซึ่งนี่ก็เป็นกฎเกณฑ์มาตรฐานของตลาด  หากจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับเรานำผ้าชุบน้ำไปชั่งน้ำหนัก ก็จะได้น้ำหนักที่ต่างจากผ้าที่ตากแห้งแล้วนำไปชั่ง  น้ำหนักส่วนที่หายไปก็คือน้ำหนักของน้ำ  เหมือนข้าวเกี่ยวสดที่น้ำหนักที่เพิ่มเข้ามาคือน้ำหนักของน้ำ หากเอาไปตากให้น้ำออกไปจึงเหลือเป็นน้ำหนักแท้จริงของข้าว

 

 

ทั้งนี้ "โครงการประกันรายได้ข้าว" ของรัฐบาลที่มีประกาศจะจ่ายเงินให้กับชาวนา  โดย "โครงการประกันรายได้" ก็เทียบฐานราคาข้าวเปลือกที่ความชื้นมาตรฐาน ที่ไม่เกิน 15% เช่นกัน   ส่วนชาวนานั้นต่างก็เกี่ยวข้าวที่ความชื้นหลากหลาย คุณภาพแตกต่างกันไป ราคาจึงเป็นราคาเฉลี่ย ซึ่งรัฐบาลก็จะชดเชยส่วนต่างเหล่านี้ให้ผ่านทางโครงการประกันรายได้ซึ่งชาวนาก็รับทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว

 

โดยเรื่องของราคาก็คงจะเป็นเรื่องของกลไกตลาดที่ต้องรับรู้  แต่ภาครัฐก็น่าจะต้องเร่งดำเนินการโครงการประกันรายได้ให้เม็ดเงินถึงมือเกษตรเร็วที่สุด และเป็นไปตามที่รัฐได้ประกาศเป็นนโยบายไว้  เพราะข้าวที่จะขายไปต่างประเทศ  ถ้าราคาสูงก็ขายไม่ออก  เจอส่งออกการขนส่งก็มีปัญหา ค่าปุ๋ย ค่ายาราคาสูง น้ำท่วม ฝนแล้ง ชาวนาเป็นผู้แบกรับทั้งหมด รัฐบาลควรเร่งนโยบายที่ประกาศอย่างเร่งด่วน

"เพื่อให้ชาวนาอุ่นใจว่ายังมีรัฐบาลคอยดูแล และ ปัญหาเหล่านี้ชาวนาต้องปรับตัวในเรื่องของการลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต ปลูกข้าวตอบโจทย์ตลาด ตอบโจทย์ชาวนา ซึ่งภาครัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงมาสนับสนุนอย่างเต็มที่และจริงจัง ในทุกด้านที่เป็นพื้นฐานของการเพาะปลูกข้าว"

 

สุดท้าย ขอฝากไปยังท่าข้าว จุดรวบรวมข้าว และ โรงสี ให้ความเป็นธรรมในการซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความชื้น การหักสิ่งเจือปน การชั่งน้ำหนัก และต้องให้ราคาที่ดีสำหรับชาวนาที่ทำข้าวได้ดีมีคุณภาพ