นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเบื้องลึก ทำไมราคาข้าวดิ่งเหว

13 ส.ค. 2564 | 06:52 น.

"ปราโมทย์" นายกสมาคมชาวนาฯ ตีแผ่ สมรภูมิสงครามไวรัสถาโถมทุบส่งออกเดี้ยง เร่งเดินหน้าประสานดันโครงการประกันรายได้ข้าว พร้อมโครงการคู่ขนานออกมาพยุงราคาข้าว  ลุ้น นบข. 23 ส.ค. ทุบโต๊ะแก้ราคาข้าวดิ่งเหว

ปราโมทย์ เจริญศิลป์

 

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้แจ้งประชาสัมพันธ์สมาชิกทราบ เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวปรับตัวลดลงทุกชนิดข้าว สมาคมฯทราบดีถึงความเดือดร้อนที่ขายข้าวเปลือกได้ราคาแทบไม่คุ้มทุน ได้แจ้งประสานไปยังภาครัฐ เช่นกระทรวงพาณิชย์ ให้เร่งออกมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างเร่งด่วน ในเรื่องโครงการประกันรายได้ โครงการ ชะลอการขาย(จำนำยุ้งฉางของเกษตร)และเงินช่วยค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพ เพื่อให้เกษตรกร มีความมันใจ และเข้าใจหลักเกณฑ์ รายละเอียดของโครงการ

 

กระทรวงพาณิชย์ได้มีประการประชุมกับคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์อ้างอิงโครงการประกันรายได้ ไปแล้วเมื่อวันที่23กรกฎาคม2564 เพื่อ เตรียมเสนอคณะกรรมการ นโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ(นบข.)อย่างไรก็แล้วแต่ขอให้รีบออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน และสถานการณ์เช่นนี้ราคาข้าวปรับตัวลดลงกับเป็นผลดีกับการส่งออก ขอให้เร่งแก้ปัญหาภาคการส่งออก ในเรื่องของการขนส่งไปต่างประเทศ มิเช่นนั้นจะเกิดสภาวะสต๊อกกดทับ 

 

สถานการณ์ราคาข้าวขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขนส่งสินค้า  ทำให้การส่งออกข้าวไปต่างประเทศมีต้นทุนเรื่องค่าขนส่งที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก  รวมถึงปัญหาเรื่องเรือ เรื่องตู้คอนเทนเนอร์ที่จะเข้ามารับสินค้าขาดแคลน ทำให้ช่องทางระบายสินค้ามีปัญหา และขณะนี้แต่ละประเทศก็ประสบปัญหาโควิดระบาดทำให้กำลังซื้อเพื่อการบริโภคและการนำเข้ามีปัญหาไปทั่วในหลายประเทศ

 

สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ไม่ได้นิ่งดูดาย และได้ประสานงานหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้รับรู้รับทราบปัญหาที่สำคัญได้ประสานงานกระทรวงพาณิชย์ โดยเท่าที่ทราบกระทรวงพาณิชย์ได้จัดเตรียมเสนอโครงการประกันรายได้และโครงการสินเชื่อชะลอการขาย เพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรโดยรายละเอียดยึดถือหลักการราคาจำนวนไร่และค่าชดเชยในการเก็บเกี่ยว เช่นเดียวกับโครงการในที่ผ่านมา (ปี 63/64) ซึ่งเข้าใจว่ากระทรวงพาณืชย์กำลังจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติในวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้  จึงอยากขอให้พี่เกษตรกรคอยฟังข่าวจากรัฐบาลเกี่ยวกับแนวทางช่วยเหลือดังกล่าว

 

 เราขายข้าวเปลือกต่ำกว่าราคาประกันรายได้ รัฐก็ชดเชยส่วนต่างให้ เราต้องเข้าใจปีๆรัฐช่วยเราในส่วนนี้ ปีละ4-5หมื่นล้าน และปีนี้รัฐก็คงต้องจ่ายมากขึ้นเพราะราคาข้าวทุกชนิดตำ่กว่าราคาประกันรายได้ เราชาวนาต้องศึกษาข้อมูล ติดตามข่าวสารด้วยและที่สำคัญในเรื่องของการเพาะปลูก เราก็ต้องเลือกใช้พันธุ์ข้าวที่ดี ตรงตลาด มีแหล่งรับซื้อ ทุกวันนี้สารพัดพันธุ์ข้าว ที่ไม่ใช่พันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวรับรองพันธุ์ บ้างพันธุ์แทบไม่รู้ที่มาที่ไปคุณภาพเป็นอย่างไร เป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่ ผลผลิตดีแต่คุณภาพไม่ดี จะได้ราคาดีอย่างไร

 

อาทิ บ้างพันธุ์อายุเพาะปลูกสั้น ผลิตดี แต่เปลือกหนาท้องไข่เยอะ โรงสีไม่ชอบ ก็ขายได้แต่ราคาตำ่)ยิ่งในสถานการณ์ราคาลงท่านก็จะได้รับผลกระทบจากราคาที่รุนแรงกว่าคนที่ทำข้าวได้ดีและมีคุณภาพ อยากจะฝากไว้เดี๋ยวนี้จะก้มหน้าก้มตาปลูก อย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องศึกษาพัฒนาปรับปรุง ในทุกด้านเพื่อลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย

 

ส่วนข้าวเหนี่ยวเท่าที่รู้ส่วนใหญ่ใช้ภายในประเทศ ส่งออกบ้างนิดหน่อยประมาณสองแสน กว่าตัน ถ้าส่งออกไม่ได้หรือได้น้อยก็มีปัญหาอีกเพราะจะทำให้เกินความต้องการใช้ภายในประเทศ ยิ่งกำลังซื้อภายในลดลงยิ่งเป็นปัญหาราคาขึ้นลงแรง มีหลายสายพันธุ์ มีทั้งปลูกได้เฉพาะฤดูนาปี และบางพันธ์ุปลูกได้ทั้งนาปี นาปรัง เรื่องพวกนี้พวกเราชาวนาก็ต้องศึกษาให้ดี “ต้องปรับตัว เรียนรู้ พัฒนาตัวเอง

 

นายปราโมทย์ ฝากถึงคนที่ไม่รู้จริง ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ท่านทำนาหรือป่าวก็ไม่รู้ และได้เป็นสมาชิกสมาคมฯหรือไม่ หรือเป็นนักเลงคีย์บอร์ด ชอบผสมโรงเที่ยววิพากษ์วิจารณ์ไปมั่วทำให้สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยเสียหาย หรืออาจถูกเข้าใจผิดว่าสมาคมฯละเลยไม่ดูแลสมาชิก สุดท้ายนี้ สมาคมชาวนาและไทย  จะทำหน้าที่เพื่อเกษตรกรชาวนาอย่างเต็มที่และจริงจัง