“เมียนมา”ลุยเช็กบิล องค์กรสนับสนุนการเงินผู้ประท้วง

17 มี.ค. 2564 | 11:31 น.

ทางการเมียนมา สั่งลงดาบธนาคาร ที่ไม่สามารถเปิดทำการได้ พร้อมลุยเช็กบิลองค์กรที่สนับสนุนการเงินผู้ประท้วง Open Society Myanmar โดนรายแรก

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) หรือทูตพาณิชย์ ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รายงานสถานการณ์ในเมียนมา ณ วันที่ 17 มีนาคม 2564 ว่า สภาบริหารแห่งรัฐ (State Administration Council) ที่มีพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เป็นประธาน ได้ประชุมหารือเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 ถึงแผนการพยายามเปิดโรงพยาบาล โรงเรียน และมหาวิทยาลัยที่ปิดไปจากเหตุการณ์ประท้วง รวมถึงการพยายามเปิดธนาคาร ทั้งหมดที่ยังปิดทำการ โดยจะมีมาตรการลงโทษธนาคารที่ไม่สามารถเปิดทำการได้ และการดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วงที่กระทำการผิดกฎหมายอย่างจริงจัง

จากการที่ทางรัฐบาลทหารเมียนมาได้ประกาศกฎอัยการศึกในหลายพื้นที่ในเขตเมืองย่างกุ้ง ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเริ่มทยอยเดินทางกลับยังภูมิลำเนาในต่างจังหวัด เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการเข้าควบคุมสถานการณ์ของทหารภายใต้กฎอัยการศึก

“เมียนมา”ลุยเช็กบิล องค์กรสนับสนุนการเงินผู้ประท้วง

ขณะที่ทางการเมียนมาได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินขององค์กรที่ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Open Society Myanmar ที่เป็นองค์กรการกุศลระหว่างประเทศ มีบัญชีธนาคารอยู่ที่ SMED Bank (Small and Medium Enterprise Development Bank) ในเมียนมาที่พบว่ามีการถอนเงินในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ออกมากว่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯโดย ไม่ได้มีการแจ้งให้ธนาคารกลางเมียนมาทราบถึงธุรกรรมทางการเงินนี้ โดยทางการเมียนมาได้อายัดเงินในบัญชีที่เหลือและได้ออกหมายจับผู้บริหารของ Open Society Myanmar จากฐานความผิดในการให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วง

สคต. ณ กรุงย่างกุ้ง รายงานอีกว่า สภาวะการค้าในเมืองย่างกุ้งยังคงทรงตัว ห้าง/ร้าน/ซุปเปอร์มาร์เก็ตยังเปิดทำการแต่มีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดในแต่ละวันตาม สถานการณ์ความรุนแรงและพื้นที่ของการประท้วง ในส่วนบริษัทและโรงงานยังมีการหยุดงานประท้วงของพนักงาน ซึ่งหากยืดเยื้ออาจส่งผลต่อภาคการผลิตสินค้าในเมียนมายิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

อย่าวไรก็ดียังคงต้องติดตามการหาทางออกของสถานการณ์การหยุดงานประท้วงว่าจะคลี่คลายได้เมื่อใด รวมถึงการเปิดธนาคารเอกชนว่าจะทำได้เร็วช้ามากน้อยเพียงใด ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนการในการรับมือต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

รง.จีนถูกเผา จี้“เมียนมา”คุมเข้ม 136 นักธุรกิจไทย Go Home

“เมียนมา”ฟาดหาง H&M หยุดสั่งผลิตเสื้อผ้า 56 โรงงาน

“เมียนมา”ปลดล็อก 72 สินค้าเฮ ไม่ต้องขอใบอนุญาตนำเข้า

‘เมียนมา’แรง ธุรกิจไทยอัมพาต ต่างชาติถอนลงทุน

“โดนแล้ว”สินค้ากองทัพเมียนมา ห้าง-ร้านค้าถอดจากชั้นจำหน่าย