“เมียนมาเป็นประเทศสมาชิกที่สำคัญของครอบครัวอาเซียน”

25 ก.พ. 2564 | 06:43 น.

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงวันนี้ (25 ก.พ.) เกี่ยวกับการพบปะระหว่าง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นางเร็ตโน มาร์ซูดี (Retno Marsudi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียและคณะ ที่เดินทางเยือนประเทศไทย ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ วานนี้ (24 ก.พ.) ว่า

ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความสัมพันธ์ไทยและอินโดนีเซียดำเนินไปอย่างราบรื่น และเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือโดยใช้ประโยชน์จากกลไกทวิภาคี รวมถึงได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 และมีการหารือเกี่ยวกับการจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (Informal ASEAN Foreign Ministers’ Meeting) ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน ส.ค.2564

นายดอน ปรมัตถ์วินัย และนางเร็ตโน มาร์ซูดี

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคโดยมีอาเซียนเป็นแกนกลางและเห็นพ้องกันถึงบทบาทที่สำคัญของอาเซียนในการส่งเสริมเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค โดยทั้งไทยและอินโดนีเซียมีความเห็นสอดคล้องกันว่า “เมียนมา” เป็นประเทศสมาชิกที่สำคัญของครอบครัวอาเซียน และอาเซียนสามารถเป็น “เวทีการหารืออย่างสร้างสรรค์” ระหว่างเมียนมากับประเทศสมาชิกอื่น ๆ ได้ โดยคำนึงถึงหลักการของกฎบัตรอาเซียนและประโยชน์ของประชาชนเมียนมาเป็นสำคัญ

ขณะที่การเดินทางเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกและประเทศแรกเมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) ของ นายวูนนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา (ซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งของรัฐบาลทหารเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา) เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการทางการทูตระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีพรมแดนทางบกร่วมกันกว่า 2,4000 กิโลเมตร และเป็นโอกาสดีที่ฝ่ายไทยจะได้รับฟังโดยตรงจากฝ่ายเมียนมาเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ที่เมียนมาให้ความสำคัญและแลกเปลี่ยนความเห็นกันระหว่างเพื่อนบ้านเกี่ยวกับประเด็นที่มีความสำคัญสำหรับประชาชนของทั้งสองฝั่งชายแดน เช่น ความร่วมมือสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความร่วมมือด้านแรงงาน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าไทยใช้โอกาสนี้สนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมา เพื่อประโยชน์ของประชาชนเมียนมา สอดคล้องกับท่าทีของอาเซียนและเป็นสิ่งที่ประชาคมระหว่างประเทศปรารถนา

อย่างไรก็ดี ในส่วนของ การพบกัน 3 ฝ่าย ระหว่าง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับนางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย และนายวูนนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา เมื่อวานนี้นั้น เกิดขึ้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา เดินทางมาพูดคุยกับฝ่ายไทย ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียนัดหมายไว้ก่อนหน้านี้ที่จะมาหารือกับไทยด้วย

อีกทั้งแผนการเยือนเมียนมาที่เดิมทางฝ่ายอินโดนีเซียกำหนดไว้ไม่เกิดขึ้น (เนื่องจากชาวเมียนมาจำนวนมากรวมตัวประท้วงต่อต้านรัฐประหารบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียในนครย่างกุ้ง) จึงได้ประสานจัดให้คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาที่เดินทางมาเยือนไทยพอดี เป็นการพูดคุยในฐานะมิตรประเทศสมาชิกอาเซียน

ทั้งนี้ นายวูนนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ยังมีโอกาสได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ห้องพักรับรอง ภายในท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง หลังนายกฯ เสร็จสิ้นภารกิจรับวัคซีนโควิด-19 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ โดยใช้เวลาในการพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยในสถานการณ์ในเมียนมา และต่อมาภายหลังได้ให้สัมภาษณ์สื่อโดยระบุว่า บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในฐานะมิตรประเทศ ที่ต้องพร้อมรับฟังซึ่งกันและกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: