นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2563 โดยมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวมเท่ากับ 30,848.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 78.61% แบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) 28,534.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) 2,314.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การใช้สิทธิประโยชน์ฯ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ลดลง14.26%
โดยได้รับผลกระทบหลักจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังดำเนินไปในหลายประเทศ ซึ่งกดดันการส่งออกทั่วโลก อย่างไรก็ดี ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว นอกจากการใช้สิทธิฯ ส่งออกสินค้าเครื่องดื่ม อาหาร เกษตรแปรรูปที่พุ่งต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2563 แล้ว ไทยยังมีศักยภาพในการส่งออกสินค้าเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกด้วย
โดยแบ่งการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงทางการค้าเสรีในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 มีมูลค่า 28,534.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 15.47% ตลาดที่ไทยส่งออกโดยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ภายใต้ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 9,490.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จีน มีมูลค่า 9,567.64 ล้านดอลลาร์หรัฐฯ ญี่ปุ่น มีมูลค่า 3,402.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯออสเตรเลีย มีมูลค่า 2,937.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ อินเดีย มีมูลค่า 1,573.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ทั้ง 4 ระบบ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ ในช่วง มกราคม-มิถุนายน 2563 มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 2,314.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 4.07% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 83.26% ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ มากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 2,043.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน1.39% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 85.24% อันดับสองคือ สวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 177.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน37.65%
ทั้งนี้ภาพรวมในช่วงครึ่งปี 2563 การใช้สิทธิประโยชน์ฯ ยังคงลดลง สอดคล้องกับทิศทางการส่งออกของไทย โดยปัจจัยหลักยังคงมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ทั้งนี้พบว่า ไทยมีศักยภาพในการส่งออกสินค้าที่มีความต้องการสูงในช่วงการแพร่ระบาด โดยเฉพาะสินค้าเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งมีการใช้สิทธิฯ เพิ่มขึ้นในหลายความตกลงฯ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และยังมีโอกาสส่งออกไปได้จากความต้องการในหลายประเทศที่ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว
โดย อาเซียน-จีน มีการใช้สิทธิฯ เพิ่มขึ้น เช่น ถุงมือยาง มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 46.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 75.19% เทอร์โมมิเตอร์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 13.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 100% อาเซียน-เกาหลี เช่น เครื่องแต่งกายทำด้วยยางวัลแคไนซ์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 67% เป็นต้น ในขณะที่ การใช้สิทธิฯ ส่งออกสินค้าเครื่องดื่ม อาหาร เกษตรแปรรูปไปยังหลายประเทศคู่ค้าในภาพรวมยังพุ่งต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี อาทิ ผลไม้ ทุเรียนสด ชิ้นเนื้อและเครื่องในไก่แช่แข็ง อาหารปรุงแต่ง เป็นต้น