4 แสนลูกจ้างอัญมณีได้เฮ ประกันฯยอมจ่ายว่างงาน 62%

จากที่ “ฐานเศรษฐกิจ”ได้นำเสนอข่าว “ 4 แสนลูกจ้างอัญมณีระส่ำ ประกันสังคมยื้อจ่ายเยียวยา” หลังโรงงานผลิตและส่งออกเครื่องประดับแท้ทำด้วยเงินทั่วประเทศที่มีมูลค่าในการส่งออกในปีที่ผ่านมา 4.8 หมื่นล้านบาท กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ที่ทำให้คู่ค้าในต่างประเทศชะลอหรือยกเลิกคำสั่งซื้อ และไม่มีออเดอร์ใหม่เข้ามา ซึ่งเวลานี้ได้ทยอยปิดกิจการชั่วคราว หรือในอนาคตอาจต้องปิดถาวร หากสถานการณ์โควิด-19 ยังลากยาว จะส่งผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องประดับแท้ทำด้วยเงิน 3-4 แสนคนทั่วประเทศต้องกลายเป็นคนว่างงาน

ทั้งนี้ทางสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย โดยนายกิตติศักดิ์  อุดมแดงอร่าม นายกสมาคมฯ ได้มีการหารือกับผู้บริหารของสมาคมฯซึ่งมีสมาชิกกว่า 150 ราย ที่เวลานี้ได้ทยอยปิดกิจการชั่วคราว และมีความหวังเมื่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติ เห็นชอบให้สำนักงานประกันสังคมจ่ายทดแทนกรณีผู้ประกันตนว่างงานจากเหตุสุดวิสัยในอัตรา 62% ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน ตามมาตรา 33 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 อย่างไรก็ดีจากการที่สมาชิกสมาคมหลายรายได้ไปคุยกับสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่หลายแห่ง ส่วนใหญ่ระบุไม่เข้าเกณฑ์การได้รับเงินทดแทนดังกล่าว โดยตีความเหตุสุดวิสัยแตกต่างกัน

ล่าสุด (10 พ.ค.2563) นายวีระศักดิ์ เลอวิศิษฎ์ อดีตนายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ได้รับทราบจากสมาชิกบางรายว่าทางสำนักงานประกันสังคมในบางเขตพื้นที่ได้เริ่มจ่ายเงินทดแทนกรณีว่างงาน 62% ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วันให้กับผู้ประกอบการเครื่องประดับเงินแล้ว หลังทางสมาคมฯได้มีความพยายามในการผลักดันในเรื่องนี้ ถือเป็นข่าวดี และคาดในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน และมีความคืบหน้ามากขึ้น

ขณะที่นายกิตติศักดิ์  อุดมแดงอร่าม นายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย เผยว่า ในการเดินทางเยี่ยมสมาคมฯของพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้นำเสนอนายกรัฐมนตรีให้รับทราบปัญหาเพื่อขอความช่วยเหลือใน 3 เรื่องสำคัญคือ 1.ขอความชัดเจนในทางปฏิบัติของประกันสังคมในแต่ละพื้นที่ในการวินิจฉัยว่าผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการเครื่องประดับเงินที่ต้องปิดกิจการชั่วคราวเข้าข่ายเหตุสุดวิสัยหรือไม่ หากเข้าข่ายก็ขอให้ประกันสังคมในแต่เขตพื้นที่ได้จ่ายทดแทน 62% กรณีว่างงานด้วย 2.ขอให้สถาบันการเงินผ่อนปรนกฎเกณฑ์เงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อที่รัฐบาลได้อนุมัติการช่วยเหลือ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างแท้จริง จากปัจจุบันสถาบันการเงินยังมีกฎเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดไม่ต่างจากช่วงปกติ และ 3.หากมีการพิจารณานำวัตถุดิบมีค่า เช่น เพชร พลอย สินค้าสำเร็จรูป หรือโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อได้ในทางปฏิบัติ จะช่วยผู้ประกอบการได้มีสภาพคล่องที่ดีขึ้น

"ทั้ง 3 เรื่องท่านนายกรัฐมนตรีรับปากจะไปช่วยดูให้ ซึ่งเรารู้สึกประทับใจในความมุ่งมั่นของท่านนายกฯ และหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือ ขอขอบคุณท่านนายกฯที่สละเวลามารับฟังปัญหาของผู้ประกอบการด้วยตัวท่านเอง อย่างไรก็ดีในที่ประชุมท่านเลขาธิการสภาพัฒน์(ดร.ทศพร  ศิริสัมพันธ์) ได้เสนอให้ประกันสังคมส่วนกลางทำหนังสือถึงสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ให้เข้าใจ และปฏิบัติให้ตรงกันในเรื่องการจ่ายเงินทดแทน 62% อย่างไรก็ดีล่าสุดได้รับทราบข้อมูลว่ามีลูกจ้างของบริษัทสมาชิกสมาคมจำนวน 3 บริษัทได้รับเงินทดแทนว่างงาน 62% แล้ว ซึ่งเขาน่าจะยื่นเรื่องไปตั้งแต่เดือนเมษายน ถือเป็นข่าวดี และคาดบริษัทอื่น ๆ ก็น่าจะได้รับการพิจารณาเช่นกัน ”