ทุกธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ล้วนแต่มีครอบครัวที่ดีอยู่เบื้องหลังเสมอ การบริหารบริษัทของคนเหล่านี้ได้ถูกวางขั้นตอนไว้เพื่อให้มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม และมีโครงสร้างที่ชัดเจน เพื่อลดและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งก่อนที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งเมื่อครอบครัวและธุรกิจเติบโตขึ้น การพัฒนาโครงสร้างการกำกับดูแลครอบครัวจะมีความสำคัญต่อการจัดการความมั่งคั่งและมรดกของครอบครัวอย่างมีประสิทธิผลสำหรับคนรุ่นต่อไปด้วย หลักพื้นฐานของครอบครัวที่ดีประกอบด้วย
สมาชิกครอบครัวต้องสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยอิสระ สิ่งสำคัญของการกำกับดูแลครอบครัว คือการตัดสินใจร่วมกัน เป็นการอยู่ร่วมกันที่ทุกคนเคารพสิทธิและให้เกียรติผู้อื่น รวมถึงมีการสื่อสารกันผ่านที่ประชุมต่างๆ ของครอบครัวที่เป็นทางการ หนึ่งในคำถามแรกที่เกิดขึ้นในกระบวนการนี้คือการระบุว่าใครบ้างมีคุณสมบัติเป็นครอบครัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมักสนับสนุนให้นับรวมเอาสมาชิกในครอบครัวตามสายเลือด คู่สมรส หรือบุตรบุตรบุญธรรมเข้ามาในกระบวนการด้วย สมาชิกในครอบครัวที่เป็นวัยรุ่น หรือแม้จะไม่ทำงานในธุรกิจของครอบครัว
มีพันธกิจและค่านิยมของครอบครัวที่ชัดเจน ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือการจัดทำพันธกิจหรือสิ่งที่ครอบครัวต้องทำให้ชัดเจน สร้างเป้าหมายร่วมและระบุค่านิยมร่วมกัน ประโยชน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของกระบวนการนี้คือเปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวแต่ละคนได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ของตนที่มีต่อครอบครัว
การสนทนาที่เข้มข้นและมีประสิทธิผลเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกระบวนการนี้ การสร้างพันธกิจที่สอดคล้องกับค่านิยมของครอบครัวจะเป็นเข็มทิศนำทางเมื่อเส้นทางสู่ความสำเร็จเกิดสะดุดขึ้นมาในวันหนึ่งใช้โครงสร้างการกำกับดูแล เนื่องจากครอบครัวมีความซับซ้อนและโครงสร้างการกำกับดูแลหลาย
อย่างมีการพัฒนาตั้งแต่ระดับคณะกรรมการครอบครัวธรรมดาๆ (Family Committees) ไปจนถึงระดับที่ซับซ้อนกว่านั้น สภาธุรกิจ (Business Council) สภาครอบครัว (Family Councils) และที่ประชุมครอบครัว (Assemblies) บทบาทส่วนหนึ่งของที่ปรึกษาคือการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างต่างๆและช่วยพิจารณาว่าอันไหนที่จะช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ บ่อยครั้งที่ความเป็นทางการและจำนวนโครงสร้างที่จำเป็นขึ้นอยู่กับขนาดของครอบครัว และครอบครัวมักให้สภาครอบครัวช่วยตัดสินใจในประเด็นเกี่ยวกับการสืบทอดกิจการหรือกิจกรรมของครอบครัว ในขณะที่ประเด็นทางธุรกิจที่ละเอียดอ่อนเป็นหน้าที่ของสภาธุรกิจ หรือกรรมการบริษัท
สิ่งสำคัญในการออกแบบโครงสร้างการกำกับดูแลต่างๆ คือความจำเป็นในการแยกธุรกิจออกจากครอบครัว โดยหน้าที่ของครอบครัวคือ การวางแผนการประชุมครอบครัว การส่งเสริมค่านิยมและทำการกุศลร่วมกัน และการสนับสนุนทุนทางปัญญาและการลงทุนระยะยาวเพื่อสังคม ขณะที่ธุรกิจครอบครัวมุ่งเน้นไปที่การจัดการเงินทุนของบริษัท
รวมถึงสร้างความมั่นใจในความยั่งยืนระยะยาวของธุรกิจ และการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ยุติธรรมให้กับครอบครัว สุดท้ายโครงสร้างต้องมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของครอบครัวเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อให้สามารถสร้างกลยุทธ์การกำกับดูแลที่ยั่งยืน
ที่มา: Harland, D. 2020. The Essential Ingredients Of Family Governance. Available: https://familybusinessunited.com/2020/11/25/the-essential-ingredients-of-family-governance/ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหตุผลที่ผู้นำ กลายเป็นผู้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง