เอกชนปักหมุดตั้ง "โรงงานถุงมือยาง" กว่า 5 พันล้านบาท

27 ก.ย. 2563 | 06:00 น.

“กนอ.” เผยเอกชนรายใหญ่ทุ่มทุนเช่าที่ดินตั้ง "โรงงานถุงมือยาง" พื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ จังหวัดสงขลา มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดิน กับบริษัท สิงหเสนี กรุ๊ป จำกัด ซึ่งร่วมทุนกับบริษัท แอทยีนส์ โกลบอล ลิงค์ จำกัด ในพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เนื้อที่ประมาณ 83 ไร่ เพื่อประกอบกิจการโรงงานผลิตถุงมือยางจากน้ำยางธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ทางการแพทย์

 

ทั้งนี้  จะใช้น้ำยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบหลักประมาณ 3,600 ตันต่อเดือน หรือประมาณ 43,200 ตันต่อปี ในพื้นที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง เป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ และช่วยยกระดับผลผลิตยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการได้ในช่วงเดือนเมษายน 2564

 

สำหรับการลงนามในสัญญาเช่าครั้งนี้ นอกจากจะผลิตถุงมือยางแล้ว บริษัทฯยังมีการจัดตั้งศูนย์การทดสอบและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง ซึ่งเป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการวิจัยยางธรรมชาติโปรตีนต่ำ เพื่อนำไปผลิตถุงมือยางธรรมชาติที่มีคุณสมบัติพิเศษในการเป็นถุงมือยางที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตื่น FBI  สอบ รง.ย้อมแมวถุงมือยาง

“ถุงมือยางไทย” เร่งอย่างไรให้เป็นแชมป์โลก

อยู่ห่างๆ ถุงมือยาง “เสี่ยใหญ่”

ชงเช็กบิล “ถุงมือยาง” แสนล้าน ผวากระทบราคาตก

 

โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการวิจัยโครงการนี้เป็นเวลา 1 ปี จากนั้นศูนย์ฯจะนำผลการวิจัยและนวัตกรรมที่ได้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพาราเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงและเพิ่มมูลค่าของสินค้าและสามารถเป็นสินค้าส่งออกที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล

เอกชนปักหมุดตั้ง "โรงงานถุงมือยาง" กว่า 5 พันล้านบาท

อย่างไรก็ดี โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตถุงมือยาง ตั้งอยู่ในเขตประกอบการทั่วไป พื้นที่ประมาณ 83 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 5.99 พันล้านบาท และจะมีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นในพื้นที่ประมาณ 2,000 คน ซึ่งเป็นการตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลทั้งสองด้าน คือ การส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่ใช้ยางพารามีความแข็งแกร่งและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ยางจากกลางน้ำสู่ปลายน้ำซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

 

และนโยบายส่งเสริมการจ้างแรงงานหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยโรงงานแห่งนี้จะใช้น้ำยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสินค้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มอุปสงค์ (Demand) การใช้น้ำยางพาราจากเกษตรกรในพื้นที่และในประเทศเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในประเทศไทย รวมทั้งเกิดการสร้างแรงงานท้องถิ่นอีกด้วย

นางสมจิณณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การลงนามในสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวมีระยะเวลา 20 ปี  โดยบริษัท สิงหเสนี กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านพลังงาน โดยมุ่งเน้นการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ริเริ่มลงทุนในธุรกิจโรงงานผลิตถุงมือยาง และให้ความสนใจลงทุนในโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา เนื่องจากอยู่พื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพรองรับห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรมยางพาราได้อย่างครบวงจรทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐาน และระบบคมนาคมที่มีประสิทธิภาพเชื่อมโยงการขนส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ