คลังโยกแสนล้าน อุ้มSMEsชายขอบ

08 มิ.ย. 2563 | 00:00 น.

คลังชงครม.ขอกันเงินเหลือเยียวยา 1 แสนล้านบาท อุ้มเอสเอ็มอีนอกระบบ 2 ล้านราย ด้านหน่วยงานแห่ยื่นสภาพัฒน์ แผนโครงการในงบเงินกู้ 4 แสนล้านฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม พระราชกำหนด (พ.ร.ก.)กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท จัดสรร 4.5 หมื่นล้านบาท ให้กระทรวงสาธารณสุขใช้แก้ปัญหาการระบาด อีก 5.55 แสนล้านบาท ให้กระทรวงการคลังเยียวยากลุ่มอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ตามมติครม. จำนวน 16 ล้านราย วงเงิน 2.4 แสนล้านบาท เกษตรกร 10 ล้านราย วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท และกลุ่มเปราะบางอีก 13 ล้านราย วงเงิน 3.9 หมื่นล้านบาท ทำให้มีวงเงินเหลือ 1.26 แสนล้านบาท

รัฐบาลให้กระทรวงการคลังไปหารือสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือ 1 แสนล้านบาท ไปช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน และตกหล่นจากมาตรการรัฐ 2 ล้านราย ครอบคลุมกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็ก เอสเอ็มอีนอกระบบ และเอสเอ็มอีที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จากทั้งหมด 3 ล้านราย

“แนวทางการช่วยเหลือ จะมีรูปแบบและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน อัตราดอกเบี้ยก็ต่างกัน เพราะปัญหาเอสเอ็มอีแต่ละรายไม่เหมือนกัน บางรายไม่มีหลักประกัน บางรายไม่ใช่ลูกค้าสถาบันการเงินเลย หรือบางรายเป็นลูกค้าสถาบันการเงิน แต่เป็นหนี้เสีย ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการรัฐต่าง ๆ ที่ออกมาได้ โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารที่ 9 มิถุนายนนี้”

หมู่บ้านอุตฯหมื่นล.

ส่วนวงเงินกู้ที่เหลืออีก 400,000 ล้านบาท จะนำมาใช้กับแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจ
สังคม เมื่อ 5 มิ.ย.2563 กระทรวงต่างๆ เร่งส่งข้อเสนอโครงการให้สภาพัฒนฯแล้ว โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เพื่อเร่งการทำแผนฟื้นฟู

แหล่งข่าวกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า กระทรวงเสนอขอรับงบเป็นวงเงิน 14,000 หมื่นล้านบาท คาดช่วยประชาชนได้ 1.2 ล้านคน เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 100,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วงประมาณ 10,000 ล้านบาท เป้าหมาย 500 แห่ง ครอบคลุม 14,150 กิจการ ให้กิจการปรับตัวอย่างถูกทิศทางสู่วิถีปกติใหม่ คาดจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 96,000 ล้านบาท

สำนักงานปลัดกระทรวง(สปอ.) ของบ 1,000 ล้านบาท เน้นการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดย
ร่วมมือกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ในภูมิภาค ของมหาวิทยาลัยทั้ง 16 แห่งทั่วประเทศ มุ่งพัฒนาการเกษตรมูลค่าสูง ยกระดับคุณภาพชีวิต รายได้ต่อหัวของประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) ของบ 200 ล้านบาท ทำโครงการช่วยโรงงานแปลงเครื่องจักรเป็นทุน บรรเทาปัญหาการขาดสภาพคล่อง ช่วยเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการในการขอรับเงินทุน และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ของบ 600 ล้านบาท เพื่อเตรียมการด้านการมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ต่าง ๆ ช่วยสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ

 

แบริเออร์ 3 หมื่นล.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า 12 มิ.ย.นี้ทางกระทรวงเตรียมเสนอครม. อนุมัติมาตรการใช้ยางพาราแปรรูปเพื่อทำอุปกรณ์ความปลอดภัยทางถนน คือ แผ่นยางหุ้มแบริเออร์ และเสาหลักนำทาง วงเงิน 30,000 ล้านบาท ตามที่เคยรับทราบและเห็นชอบมาก่อนแล้ว ซึ่งจะทำให้เงินถึงมือชาวสวนยางกว่า 70% ตั้งเป้าทำบนถนนของกรมทางหลวง(ทล.)และกรมทางหลวงชนบท(ทช.)ที่มีเกาะสีกั้นกลาง รวมกว่า 12,000 กิโลเมตร โดยใช้น้ำยางพาราประมาณ 360,000 ตันต่อปี โดยจะลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกษตรกรเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายให้กับทล. และ ทช.ตามสิทธิบัตร โดยไม่ผ่านบริษัทหรือนายหน้าใด ๆ ช่วยสร้างเสถียรภาพราคายางพารา

ส่วนการร้องขอทำถนนในพื้นที่ เพื่อตอบโจทย์ทั้งการเดินทางเข้าแหล่งท่องเที่ยว และการเดินทางเพื่อขนส่งสินค้าทางการเกษตร ขณะนี้ทางกระทรวงอยู่ระหว่างการรอหน่วยงานแต่ละจังหวัดพิจารณานำเรื่องดังกล่าวส่งเข้ามาที่กระทรวง เพื่อดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวให้สภาพัฒนฯพิจารณา คาดว่าได้ข้อสรุปภายในวันที่ 10 มิ.ย.นี้

 

เชียงใหม่ขอฟื้นเมือง

ส่วนการเสนอโครงการของกระทรวงมหาดไทย ใช้คณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.)เป็นกลไกพิจารณาข้อเสนอแผนงานโครงการหน่วยงานในพื้นที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมก.บ.จ.เชียงใหม่เสนอทั้งหมด 368 โครงการ เป็นของส่วนราชการ 320 โครงการ งบประมาณกว่า 4,800 ล้านบาท และเป็นโครงการของจังหวัด 48 โครงการ งบประมาณ 1,000 ล้านบาท รวมเป็นงบที่เสนอทั้งสิ้น 5,800 ล้านบาท ที่น่าสนใจ อาทิ โครงการส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสาน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย ภายใต้โครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน โครงการ Lanna Gastronomy คิดถึงเชียงใหม่ และ โครงการท่องเที่ยวจริตชีวิต(เชียง)ใหม่ New Normal Tourism in Chiang Mai เป็นต้น

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับที่ 3,581 วันที่ 7 - 10  มิถุนายน พ.ศ. 2563