เปิดแนวคิดทางยุทธศาสตร์ของ“จีน”จากกระดานหมากล้อม

20 มี.ค. 2565 | 11:02 น.

แนวคิดทางยุทธศาสตร์ของ “จีน” จากกระดานหมากล้อม และการประยุกต์ใช้ทฤษฎีหมากล้อมในยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของจีน ยึดหลัก“ซุนวู” ยืดหยุ่นฉับพลัน การเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิด

พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้ประมวลและนำเสนอ แนวคิดทางยุทธศาสตร์ของจีนจากกระดานหมากล้อมและการประยุกต์ใช้ทฤษฎีหมากล้อมในยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของจีน 

 

โดย ดร.เดวิด ไล่ (David Lai) ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาความมั่นคงแห่งเอเชีย สถาบันศึกษายุทธศาสตร์ วิทยาลัยการทัพบกสหรัฐฯ ได้เขียนขึ้นเมื่อปี ๒๐๐๔ (พ.ศ.๒๕๔๗) และ ดร.เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ได้นำมาวิเคราะห์ไว้ในหนังสือชื่อ “On China” ปี ๒๐๑๑ (พ.ศ.๒๕๕๔) ในหน้า ๒๒ – ๓๒ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. หมากล้อม ในภาษาจีนเรียกว่า “เหวยฉี" (Wei Qi) ที่มีต้นกำเนิดในจีนเมื่อประมาณ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ ปีที่ผ่านมา และคนจีนสมัยโบราณเรียกหมากล้อมว่า “อี้” ( Yi) โดยการเล่นบนตารางสี่เหลี่ยมที่มีจุดตัดกัน ๑๙ จุดตามแกนแต่ละเส้น ที่ผู้เล่นสองคน ต้องเปลี่ยนหมากหินสีขาวหรือดำ (ค่าเท่ากันทั้งหมด) บนตาราง 


เป้าหมายคือ การล้อมรอบและจับหมากศัตรูพลิกให้กลานเป็นพวกหรือหมากของฝ่ายตน และถ้าไม่ใช่ก็ฆ่าโดยถอนออกจากกระดานฯ ซึ่งเกมกระดานเดียวนี้ บางครั้งอาจใช้เวลาทั้งวัน และใช้ความอดทนกว่าจะได้ผู้ชนะ 

ดร.เดวิด ไล่ ได้กล่าวถึงปรัชญาของหมากล้อม ที่นำแนวทางของหลักการสำคัญของตำราพิชัยสงครามซุนวู มาประยุกต์ โดยเฉพาะหลักการสำคัญของซุนวู คือการใช้ความยืดหยุ่นและฉับพลัน รวมทั้งการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิด ชิงความได้เปรียบในสถานการณ์ที่จะนำสู่การบรรลุเป้าหมายทางการเมืองได้ดีที่สุด 


 ๒. การประยุกต์ใช้ทฤษฎีหมากล้อมในการดำเนินยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของจีน โดยจีนได้วางหมากไว้อย่างมีกลยุทธ์ ดังบทวิเคราะห์ของ ดร.เฮนรี คิสซินเจอร์ ซึ่งได้กล่าวอ้างจากผลงานของ ดร.เดวิด ไล่ ว่า ภูมิศาสตร์การเมือง (ภูมิรัฐศาสตร์) แบบหมากล้อมของจีน คือการลงทุนในต่างประเทศที่รัดกุม มุ่งเป้าไปที่การล้อมรอบพื้นที่ที่มีนัยยะสำคัญ ในระยะยาวของจีน กล่าวคือ


๒.๑ ดร.เดวิด ไล่ เห็นว่า "การเคลื่อนไหวในแอฟริกา อเมริกาใต้ และยุโรปตะวันออก เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ใหญ่ของจีน" ซึ่งสอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เชื่อว่า กำลังจะเห็นความเสื่อมลงในระยะยาวของอำนาจรัฐอเมริกัน ตัดกับความรุ่งเรืองของจีนที่ผุดรอบภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น 
ตามปรัชญาหมากล้อมที่เน้นความปรองดอง ไม่เผชิญหน้า ปะทะ หักหาญ ทำลาย ยึดฉวยเอาประโยชน์ฝ่ายเดียว แต่ใช้ความยืดหยุ่น ประโยชน์ร่วม ผ่อนหนักเบาขัดแย้ง แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ด้วยความอดทน และเข้าใจว่าสงครามคือทางเลือกสุดท้าย ที่ไม่มีใครได้ประโยชน์ 


 ๒.๒ ดร.เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ได้ยกกรณีตัวอย่างของการล้อมไต้หวัน และมุ่งคืนไต้หวันกลับสู่อธิปไตยของจีน โดยไม่ต้องใช้กำลังรบ ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยจีนใช้บันไดทั้งทางเศรษฐกิจ การทหารและการทูต เพื่อระงับการเคลื่อนไหวในการแยกตัว อาทิ กระตุ้นกระแสการค้าและการลงทุนที่ไหลผ่านช่องแคบไต้หวัน เป็นต้น 


( ข้อมูลจาก Henry Kissinger 2011. On China. New York : Penguin Books., pp.22-32. และข้อมูลจากเว็บไซต์ https://fas.org/man/eprint/lai.pdf รวมทั้งเว็บไซต์ https://guru.sanook.com/2277/ และเว็บไซต์  https://mgronline.com/china/detail/9610000026743 )