วิธีการสืบทอดมรดกธุรกิจ

01 พ.ย. 2568 | 03:25 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ย. 2568 | 03:30 น.

วิธีการสืบทอดมรดกธุรกิจ : Family Business Thailand รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย [email protected]

การได้รับกิจการเป็นมรดก อาจดูเหมือนโชคดีในสายตาคนนอก แต่สำหรับผู้สืบทอดแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจครั้งใหญ่ ทั้งในมิติของอารมณ์ ความสัมพันธ์ในครอบครัว ภาษี และการบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งหากขาดการวางแผนที่รอบคอบ สิ่งที่ควรเป็นโอกาสอาจกลายเป็นภาระที่กดดันจนต้องขายกิจการในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง

สำหรับประเทศไทย แม้อัตราภาษีมรดกจะต่ำและไม่ซับซ้อนเท่าสหรัฐฯ ที่อาจสูงถึง 40% ของมูลค่าทรัพย์สิน แต่ผู้สืบทอดก็ยังต้องเผชิญความท้าทายไม่น้อย โดยเฉพาะกรณีที่ทรัพย์สินหลักคือหุ้นบริษัทหรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในทันที

ตามพระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558 ผู้รับมรดกที่เป็นผู้สืบสันดาน (เช่น บุตร บิดา มารดา หรือบุตรบุญธรรม) ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับมรดกมูลค่าไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อผู้ตายหนึ่งราย และต้องเสียภาษีเฉพาะส่วนที่เกินในอัตรา 5% ส่วนผู้รับมรดกที่ไม่ใช่บุพการีหรือผู้สืบสันดาน จะต้องเสียภาษีในอัตรา 10% ของมูลค่าที่เกิน 100 ล้านบาท

ดังนั้นเพื่อให้การสืบทอดธุรกิจราบรื่นและยั่งยืน ผู้สืบทอดควรบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ผ่าน 3 ขั้นตอนสำคัญดังนี้

1. ประเมินสถานะและมูลค่าธุรกิจอย่างรอบด้าน

ก่อนจะเลือกสานต่อหรือขายกิจการ ควรเริ่มด้วยการประเมินมูลค่าธุรกิจอย่างเป็นจริง ทั้งในด้านกำไร หนี้สิน ทรัพย์สิน และศักยภาพทีมงานหลัก รวมถึงแนวโน้มการเติบโตหรือความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ ในสหรัฐฯ มีทางเลือกประเมินมูลค่า 2 ช่วงเวลา คือวันที่เจ้าของเสียชีวิต หรือวันสำรอง (Alternate Valuation Date) ภายใน 6 เดือน เพื่อลดภาระภาษีหากมูลค่าทรัพย์สินลดลง แต่ประเทศไทยยังไม่มีทางเลือกนี้ ผู้สืบทอดจึงต้องคำนึงถึงจังหวะเวลาของการโอนมรดกให้รอบคอบที่สุด

วิธีการสืบทอดมรดกธุรกิจ

2. วางกลยุทธ์จัดการภาษีและสภาพคล่อง

หากเลือกดำเนินธุรกิจต่อแต่ยังขาดเงินสดสำหรับชำระภาษี การจัดการสภาพคล่องคือกุญแจสำคัญ ในต่างประเทศมีทางเลือก เช่น การผ่อนชำระภาษี (Installment / Tax Deferral) หรือการกู้เงินชำระภาษีทันที (Graegin Loan) แล้วทยอยจ่ายคืนจากผลกำไรในอนาคต การกู้เงินเพื่อรักษาทรัพย์สินหลัก เช่น ที่ดินหรือหุ้นบริษัท จึงเป็นอีกแนวทางที่ช่วยคงมูลค่าของกิจการและลดแรงกดดันทางการเงินในระยะยาวได้

3. วางแผนสืบทอดล่วงหน้า

สำหรับเจ้าของกิจการที่ยังมีชีวิตอยู่ การวางแผนสืบทอดล่วงหน้าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำแผนสืบทอดธุรกิจ (Succession Plan) การทำประกันชีวิตเพื่อรองรับภาษีมรดก หรือการจัดระบบเอกสารบริษัทให้ชัดเจน สิ่งเหล่านี้จะสามารถช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัว และทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อโดยไม่สะดุด

ดังนั้นการสืบทอดธุรกิจจึงไม่ใช่เพียงการจัดการเรื่องกฎหมายหรือภาษีเท่านั้น แต่เป็นบทบาทใหม่ที่ผู้สืบทอดต้องยอมรับและก้าวข้ามทั้งความคาดหวังของครอบครัว แรงกดดันจากภาระการเงิน และการตัดสินใจเชิงธุรกิจ หากเตรียมการอย่างรอบคอบและบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ มรดกที่ได้รับจะไม่ใช่ภาระ แต่จะกลายเป็นทุนที่สามารถต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงต่อไปแน่นอน

 

ที่มา: 1. Jarvis, A. (2025, July 9). How to handle an inherited business. Charles Schwab. https://www.schwab.com/learn/story/how-to-handle-inherited-business 2. พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558, มาตรา 11–16, กรมสรรพากร. https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/kormor/newlaw/deathduty.pdf