"กรอ." คลอดประกาศการจัดการสิ่งปฏิกูล-วัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ฟันผู้ก่อมลพิษ

06 มิ.ย. 2566 | 05:32 น.

"กรอ." คลอดประกาศการจัดการสิ่งปฏิกูล-วัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ฟันผู้ก่อมลพิษ ระบุบังคับใช้เต็มรูปแบบ 1 พ.ย. ชี้ต้องรายงานการจัดการของเสียภายในกำหนด ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท

นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรอ. ได้ดำเนินการประกาศปรับปรุงประกาศฉบับล่าสุดประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566 ที่นำหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย หรือเป็นผู้รับผิดชอบ (Polluter Pays Principle: PPP) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ 

กำหนดความรับผิดตั้งแต่ต้นทางโรงงานผู้ก่อกำเนิด ไปจนกว่าสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจะได้รับการจัดการจนแล้วเสร็จ ต่างจากเดิมที่ความรับผิดชอบจะสิ้นสุดเมื่อโรงงานผู้รับกำจัดได้รับมอบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 

ยกเว้นการส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว และรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับการจัดการวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ผ่านระบบการรายงานข้อมูลกลางของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ iSingle Form (https://isingleform.go.th/home) ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และจะมีผลนับถัดจากวันที่ประกาศ ฝ่าฝืนไม่รายงานหรือรายงานล่าช้ามีโทษปรับสุงสุด 20,000 บาท 

กรอ. คลอดประกาศการจัดการสิ่งปฏิกูล-วัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ฟันผู้ก่อมลพิษ

ทั้งนี้ ผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator: WG) 60,638 โรงงานทั่วประเทศ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ต้องรายงานประจำปีเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ทั้งที่เป็นของเสียอันตรายและไม่อันตราย ภายในวันที่ 1 เมษายนของปีถัดไป 

โดยข้อมูลรอบปี พ.ศ. 2565 กำหนดให้รายงานภายใน 30 วัน นับถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 สำหรับโรงงานที่ส่งรายงาน แบบ สก.3 รอบปี พ.ศ. 2565 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548 แล้ว จะถือว่าได้ส่งรายงานประจำปี รอบปี พ.ศ. 2565 ตามประกาศฉบับใหม่แล้วเรียบร้อย

ผู้รับบำบัดกำจัดของเสีย (Waste Processor: WP) คือโรงงานลำดับที่ 101, 105 และ 106 จำนวน 2,500 โรงงานทั่วประเทศ จะต้องจัดส่งรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับการจัดการวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป มีผลนับถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะรายงานข้อมูลครั้งแรกภายใน 15 กรกฎาคม 2566

“การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ให้เข้าสู่ระบบการจัดการที่ดีเป็นเรื่องที่สำคัญ ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานรองรับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอย่างสมดุล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมทั้งสร้างความเชื่อถือและความไว้วางใจจากประชาชนทั่วประเทศ”