เตือน "สิระ" ระวังหลุด ส.ส. พาผู้ต้องหาบุกดูสำนวนคดีจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทาง

06 ม.ค. 2564 | 02:30 น.

“นิพนธ์” เตือน “สิระ” ระวังหลุดจาก ส.ส. พาผู้ต้องหาบุกดูสำนวนที่ สภ.เมืองสงขลา ปมประมูลการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทาง อบจ.สงขลา

6 มกราคม 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ได้นำนายอิทธิพล ดวงเดือน กรรมการบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ผู้ต้องหาในคดีอาญา 1975/2562 ของ สภ.เมืองสงขลา เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.ภูวรา แก้วภารัตน์ ผกก.สภ.เมือง สงขลา เพื่อไปขอดูสำนวนคดีที่ อบจ.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัทเอกชน 2 ราย ได้แก่ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ซึ่งมีนายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นกรรมการ และบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด ซึ่งมี น.ส. ศศิธร ตั้งตรงคิด เป็นกรรมการในข้อหาร่วมกันปลอมเอกสาร และแสดงเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อเข้าประมูลการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางและร่วมกันสมยอมราคาอันเป็นเหตุให้ อบจ.สงขลา ได้รับความเสียหาย

 

คดีดังกล่าวยังเป็นคดีที่ยังอยู่ในสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และมีข้อสังเกตว่า นายสิระ เจนจาคะ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคพลังประชารัฐนั้น มีอำนาจมาขอดูสำนวนการสอบสวนที่พนักงานสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องใดๆกับคดี อีกทั้งมีข้อน่าสังเกตว่า น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ก็มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาบริษัทพลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เช่นกัน

 

ดังนั้น การที่นายสิระ ซึ่งเป็น ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาขอดูสำนวนคดีดังกล่าวกับพนักงานสอบสวนด้วยนั้น จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง และบริษัทพลวิศว์ เทค พลัส จำกัดหรือไม่

 

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตนายก อบจ. สงขลา กล่าวว่า ข้อเท็จจริงต่างๆเรื่องนี้อยู่ในสำนวนสอบสวนอยู่แล้วเหตุเพราะอบจ.สงขลา ได้รับหลักฐานที่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส และบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค ใช้ประกอบยื่นซองประกวดราคาว่า ทั้ง 2 บริษัท ยื่นเอกสารปลอมต่อ อบจ.สงขลา และน่าเชื่อว่า มีการฮั้วประมูลกันก็เป็นเรื่องที่ต้องมีการพิสูจน์ความจริงกันไปตามกระบวนการ

 

ทุกฝ่ายไม่ควรเข้าไปแทรกแซงการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรจะมีใครใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะขั้นตอนในชั้นพนักงานสอบสวนถือเป็นกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น รวมทั้งในเรื่องนี้เมื่ออบจ. และผู้มีส่วนได้เสียได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วก็ขอให้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ให้ระวังเพราะถ้าเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงจะมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ

“การจะมากล่าวอ้างใดๆ อีกนั้นผมคิดว่าเป็นการไม่เหมาะสม เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นวุฒิภาวะที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ และโดยปกติการกระทำการใดๆ โดยใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบก็หมิ่นเหม่ต่อการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้ต้องบอกให้ชัดว่าทำในนามส่วนตัว หรือทำในนาม กมธ. สภา” นายนิพนธ์กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ถกอีกวันนี้รับรอง-ไม่รับรองนายก อบจ. 64 จังหวัด

"ชวน"แจงฝ่ายค้านจะซักฟอกรัฐบาล ต้องยื่นก่อน28 ก.พ.

"ฝ่ายค้าน"เล็งยื่นญัตติ "ซักฟอกรัฐบาล"ม.ค.นี้