นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “BCPG” เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/63 ว่า มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 643 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 410 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติเพิ่มสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ รับรู้เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก หลังจากได้เข้าซื้อกิจการต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2562 รวมถึงการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการในประเทศไทย ที่เข้าซื้อเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ที่เพิ่มขึ้นโดยรวม ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 1.42 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1.29 พันล้านบาท
สำหรับปัจจุบันกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศของ บีซีพีจีอยู่ที่ 862 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการแล้ว 472 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ และโรงไฟ้ฟ้าพลังน้ำ และ โครงการที่อยู่ระหว่างแผนการพัฒนาอีก 390 เมกะวัตต์ ครอบคลุมใน 6 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
ส่วนแผนการลงทุนของบีซีพีจี ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2564-2568) บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปในการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว ประมาณ 3.57 พันล้านบาท ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ 3.7 พันล้านบาท
นอกจากนี้จะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนสำหรับการเข้าซื้อโรงไฟฟ้า Nam San 3A และ Nam San 3B กำลังการผลิตรวม 114 เมกะวัตต์ รวมถึงเงินลงทุนสำหรับการก่อสร้างและดำเนินกิจการระบบสายส่งไฟฟ้าและสถานีจ่ายไฟฟ้าเพิ่มเติม จำนวน 1.87 พันล้านบาท
และชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วน รวมถึงเงินลงทุนสำหรับการชำระค่าซื้อโครงการส่วนที่เหลือตามเงื่อนไขการชำระเงิน และเงินลงทุน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและการซ่อมบำรุงโครงการสำหรับการซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย จำนวน 1.21 พันล้านบาท
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/63 เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยยังยืนยันเป้าหมายของ EBITDA ในปี 63 ตามเดิม คือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% แตะที่ระดับ 3.5 – 3.6 พันล้านบาท และในอนาคตคาดว่าจะสามารถเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก บีซีพีจี มีแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้ผลตอบแทนจากโครงการต่างๆ ได้ตั้งแต่ปี 64 เป็นต้นไป และตั้งเป้าการเติบโตของ EBITDA เฉลี่ยต่อปีที่ 13-15 ไปจนถึงปี 68”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง