WHO เตือนถึงฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ก็ห้ามประมาท “สายพันธุ์เดลตา”  

28 มิ.ย. 2564 | 12:20 น.

องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือน แม้คนที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดสแล้วก็ขอให้สวมหน้ากากอนามัยต่อไป รวมทั้งรักษาระยะห่าง และปฏิบัติตามแนวทางเพื่อความปลอดภัยเนื่องจาก "ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา" ที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วยังคงระบาดไปในหลายประเทศทั่วโลก

พญ.แมริแอนเจลา ซิมาโอ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผย ณ สำนักงานใหญ่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเร็ว ๆนี้ ว่า ผู้คนไม่อาจรู้สึกปลอดภัยได้เพียงเพราะว่าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบสองโดสแล้ว เพราะ “แค่วัคซีนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในชุมชนได้ คนเราจำเป็นต้องป้องกันตัวเองต่อไปด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ อยู่ในสถานที่มีการระบายถ่ายเทอากาศได้ดี ล้างมือให้สะอาด รักษาระยะห่างจากบุคคลอื่น ๆ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เรื่องเหล่านี้ยังคงมีความสำคัญอย่างมาก แม้ว่าคุณจะฉีดวัคซีนป้องกันครบโดสแล้วก็ตามตราบใดที่การแพร่ระบาดในชุมชนยังเกิดขึ้นอยู่อย่างนี้”

พญ.แมริแอนเจลา ซิมาโอ

ข้อคิดเห็นของผู้บริหาร WHO มีขึ้นขณะที่หลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา เริ่มผ่อนคลาย-ปลดล็อกมาตรการควบคุมเป็นลำดับ ซึ่งรวมถึงการผ่อนปรนให้ประชาชนไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย เนื่องจากเห็นว่าโครงการปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนมีผลทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ชะลอตัวและยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดก็ลดน้อยลง    

ข้อมูลของมหาวิยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ซึ่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในสหรัฐอเมริกา “ทรงตัว” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในระดับเฉลี่ย 11,659 รายต่อวัน แต่หากเทียบกับช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ถือว่าลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม WHO ขอให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโดสแล้ว ยึดหลัก “ปลอดภัยไว้ก่อน” เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ของโลกยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่อย่างเดลตา (delta) ที่แพร่กระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว ก็ยังคงระบาดหนักในหลายพื้นที่

เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในการแพร่ระบาดรอบใหม่ในอิสราเอลนั้น เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์-บิออนเทคครบโดสแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลอิสราเองกลับมารื้อฟื้นใช้มาตรการให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายในอาคารกันอีกครั้ง รวมทั้งมาตรการเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ

นพ.บรูซ อีลเวิร์ด ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้อำนวยใหญ่ WHO ให้ความเห็นว่า มาตรการต่าง ๆสามารถช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และประเทศต่าง ๆก็มีแนวทางของตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนก็ยังจำเป็นต้องระมัดระวังตนเอง เพราะเท่าที่เห็นกันอยู่ในขณะนี้ก็คือ ไวรัสโควิดยังคงมีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา WHO ประกาศยอมรับว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย ได้กลายมาเป็น “สายพันธุ์หลัก” ในหมู่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายประเทศทั่วโลก และปัจจุบันก็มีการตรวจพบไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวในอย่างน้อย 92 ประเทศ “นี่คือไวรัสโควิดที่แพร่ระบาดได้ไวที่สุด และแข็งแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา” เจ้าหน้าที่ของ WHO ระบุ พร้อมเตือนว่า ไวรัสดังกล่าวจะเลือกบุคคลที่อ่อนแอหรือมีจุดอ่อนมากที่สุดโดยเฉพาะในสถานที่ที่ยังมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในอัตราต่ำ 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน

ส่วนในสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมรับว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดน่าจะยังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็น “ตัวอันตราย” และ “สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก”

ผู้นำสหรัฐเตือนว่า ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้นถือว่ามีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ “ขณะนี้มีคนอเมริกันที่เสียชีวิตจากโควิดจำนวนมากกว่า 6 แสนคนทั่วประเทศ และไวรัสสายพันธุ์เดลตาก็ยังคงแพร่ระบาดอยู่ เราต่างรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนวัยหนุ่มสาว” ปธน.ไบเดนประกาศในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง