รัสเซียเผยวัคซีนโควิด “สปุตนิก วี” (Sputnik V) มีประสิทธิภาพสูงถึง 92%

12 พ.ย. 2563 | 00:21 น.

รัสเซียยืนยันประสิทธิภาพวัคซีน Sputnik V ในการป้องกันโควิด-19 เกิน 90% จ่อจดทะเบียนวัคซีนตัวที่3เร็ว ๆนี้

 

กองทุน RDIF ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัสเซีย และเป็นผู้ให้การสนับสนุน การผลิตวัคซีน “สปุตนิก วี” (Sputnik V) ซึ่งเป็น วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของรัสเซีย ระบุว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า Sputnik V มีประสิทธิภาพ 92% ในการป้องกันไวรัส โควิด-19

 

"ข้อมูลบ่งชี้ว่าเรามีวัคซีนซึ่งมีประสิทธิภาพมาก" นายคิริลล์ ดมิเทรียฟ ผู้อำนวยการ RDIF กล่าว

รัสเซียเผยวัคซีนโควิด “สปุตนิก วี” (Sputnik V) มีประสิทธิภาพสูงถึง 92%

RDIF เปิดเผยว่า ผลการทดลองดังกล่าวมาจากการทดลองวัคซีนต่ออาสาสมัครจำนวน 16,000 ราย ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนคนละ 2 เข็ม และการทดลองดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปอีก 6 เดือน โดยจะมีอาสาสมัครรวมทั้งสิ้น 40,000 ราย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จากความคืบหน้าดังกล่าว ขณะนี้ทางกองทุนได้ลงนามกับหลายประเทศเพื่อจัดส่งวัคซีน Sputnik V รวมทั้งสิ้น 270 ล้านโดส ส่วนการผลิตวัคซีนนั้น จะมีการผลิตในหลายประเทศ เช่น อินเดีย บราซิล จีน และเกาหลีใต้

วัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซีย

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียเตรียมอนุมัติการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นตัวที่ 3 ของประเทศในเร็ว ๆนี้

 

ถ้อยแถลงของปธน.ปูตินมีขึ้น หลังจากที่ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และไบโอเอ็นเทค ( BioNTech) ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทั้งสองบริษัทพัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน

 

ก่อนหน้านั้น ผู้นำรัสเซียได้ประกาศข่าวการจดทะเบียนวัคซีน Sputnik V เป็นประเทศแรกเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกในโลกที่ให้การอนุมัติการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ภายใต้ชื่อวัคซีน Sputnik V แม้ว่าในขณะนั้นวัคซีนดังกล่าวใช้เวลาทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ได้ไม่ถึง 2 เดือน และยังไม่มีการทดลองในเฟส 3 ขณะที่การทดลองทางคลินิกประสบความสำเร็จเพียง 10%

 

ต่อมาในเดือนต.ค.รัสเซียยังประกาศว่า รัฐบาลให้การอนุมัติการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นตัวที่ 2 แล้วแม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยผลการทดลอง และยังไม่มีการเริ่มทดลองในเฟส 3

 

นับว่าการแข่งขันการวิจัยและผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ในขณะนี้เป็นไปอย่างดุเดือด มีข่าวความคืบหน้าของการพัฒนาเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เช่นเดียวกับวัคซีนของจีนที่ขณะนี้การทดสอบในกลุ่มอาสาสมัครที่ประเทศบราซิลได้เริ่มเดินหน้าอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ถูกระงับไปพักหนึ่งเนื่องจากผลข้างเคียง