นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า องค์กรให้ความสำคัญกับ "บุคลากร" เพื่อผลักดันองค์กรสู่เป้าหมาย การเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในพัฒนาและก้าวผ่านขีดจำกัดของวิทยาศาสตร์ ด้วยการนำนวัตกรรมด้านยารักษาโรค สู่การยกระดับการรักษาและดูแลผู้ป่วยในประเทศไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
การพัฒนาและดูแลบุคลากรของแอสต้าเซนเนก้า ดำเนินภายใต้แนวคิดในการสร้าง แอสตร้าเซนเนก้า ให้เป็น Great Place to Work หรือสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม แม้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้องค์กรทั่วโลกต้องปรับนโยบายด้านทรัพยากรบุคคล ให้มีความยืดหยุ่นและเข้าใจพนักงานมากยิ่งขึ้น สำหรับแอสตร้าเซนเนก้าให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน โดยพิจารณาถึงความเป็นเลิศของนโยบายด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล รวมไปถึงการบริหารทรัพยากรบุคคล ทั้งการพัฒนา การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงาน การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถโดดเด่นมาร่วมงาน การฝึกอบรม การส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงการยอมรับในความแตกต่างและการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Diversity & Inclusion) ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่สามารถผลักดันให้องค์กรเป็นองค์กรน่าอยู่ และได้รับการยอมรับ
ล่าสุด แอสตร้าเซนเนก้า ได้รับรางวัล Top Employer 2021 จากสถาบันท็อป เอ็มพลอยเยอร์ส (Top Employers Institute) ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รางวัลนี้สะท้อนถึงศักยภาพขององค์กร ในการปรับตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกาแรพร่ระบาดของโควิด 19 ที่วงการเภสัชอุตสาหกรรมกำลังเป็นที่จับตาต่อความสามารถในการนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ การต่อยอดและพัฒนาเพื่อคลี่คลายปัญหาในระดับโลก
ปีที่ผ่านมา เป็นปีที่มีความท้าทายมาก หลายองค์กรทั่วโลกยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่ แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) ให้ความสำคัญกับการดูแลบุคลากรเป็นอันดับแรก โดยแอสตร้าเซนเนก้า เริ่มดำเนินกิจการในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2526 นอกจากการให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอันดับแรกแล้ว บริษัทยังเน้นศักยภาพของวิทยาศาสตร์ What Science Can Do และการค้นคว้าแนวทางใหม่ๆ เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ระบบการให้บริการด้านสุขภาพ ไปจนถึงส่งมอบสุขภาพที่ดีแก่ผู้คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจาะมิชชั่น พัฒนา‘พริ้นซิเพิล’สู่องค์กรยั่งยืน
7 วิธีคิด ดึงมนุษย์เงินเดือนออกจาก Comfort Zone