ธ.ก.ส.ชวนทำประกันภัยโค ป้องกันความเสี่ยงโรคลัมปีสกิน

21 มิ.ย. 2564 | 12:30 น.

ธ.ก.ส. หนุนเกษตรกร ทำประกันภัยโคนม/โคเนื้อ ครอบคลุมโรคลัมปีสกินที่กำลังระบาดหนัก วงเงิน 30,000 บาท/ตัว ค่าเบี้ย โคนม 810 บาท/ตัว โคเนื้อ 400 บาท/ตัว

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของ โรคลัมปีสกิน ในโคและกระบือ ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในไทยเป็นครั้งแรก โดยพบการระบาดแล้วกว่า 62 จังหวัด ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงและสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค   ธ.ก.ส.จึงได้จัดทำประกันภัยผ่านโครงการประกันภัยโคนมและโคเนื้อ เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายของเกษตรกรผู้เลี้ยงโค จากการตายของโคที่เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ให้สามารถพยุงตัวได้และมีทุนเหลือเพียงพอต่อการเริ่มต้นใหม่

 

ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.

 

ทั้งนี้ โครงการประกันภัยโคนม มีบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกั(มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัย  คิดค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 810 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว) ให้ความคุ้มครอง การตายจากการเจ็บป่วย ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว การตายจากอุบัติเหตุ ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว และการตายจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม และลมพายุ ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี โดยโคนมต้องมีใบรับรองสุขภาพจากสัตวแพทย์ อายุโคนมตั้งแต่ 18 เดือน – 8 ปี โดยสามารถทำประกันภัยโคนมบางตัวในฟาร์มได้

ส่วนโครงการประกันภัยโคเนื้อ มีบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัย คิดค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 400 บาท(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว)  ให้ความคุ้มครองการตายจากการเจ็บป่วย ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว ตายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม ดินถล่ม พายุ และแผ่นดินไหว ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครองสิ้นสุดเมื่อส่งขายคอกกลางหรือ 6 เดือนนับจากวันขอเอาประกันภัย

 

“โคเนื้อที่ขอเอาประกันภัยต้องมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีความพิการซึ่งมีผลกับสุขภาวะ และไม่เป็นโรคเรื้อรัง ไม่อยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล มีอายุไม่เกิน 36 เดือน ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ และมีการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ (NID คือ การเขียนที่ใบหู / RFID คือ การฝังชิบที่ใบหู) มีบันทึกประวัติถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย และโรคคอบวม (Hemorrhagic Septicemia) มาแล้ว ไม่เกิน 1 เดือน   นับแต่วันที่ขอเอาประกันภัย โดยเกษตรกรผู้เอาประกันภัยจะต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตนของโคเนื้อ”นายธนารัตน์กล่าว

 

ทั้ง 2 โครงการ ผู้ขอเอาประกันภัยต้องเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์  โดยโคที่ขอเอาประกันภัยต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคหรือไม่เจ็บป่วยในช่วงระยะเวลารอคอยหรือภายในช่วง 30 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลคุ้มครอง โดยการประกันภัยดังกล่าวให้ความคุ้มครองการตายจากโรคลัมปีสกิน ซึ่งเป็นโรคระบาดใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาแนวทางการรักษา รวมถึงการดูแลอย่างถูกต้อง จึงอาจสร้างผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและโคเนื้อ  

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: