ค่าเงินบาทกลับมาปิดตลาดวันที่ 4ธ.ค.ที่ระดับ 32.02 บาทต่อดอลลาร์

04 ธ.ค. 2568 | 10:53 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2568 | 11:34 น.

ค่าเงินบาทลดช่วงบวกลง และอ่อนค่ากลับมาบางส่วน กอรปกับตลาดกลับมารอติดตามเฟดและการแก้ไขประกาศให้ร้านทองรายงานธุรกรรมหลังมีข่าว ธปท.กับคลังอยู่ระหว่างหารือร่วมกัน ในสัปดาห์หน้าระหว่าง 8-12ธ.ค.. ประเมินกรอบเคลื่อนไหวเบื้องต้นไว้ที่ 31.80-32.40 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทกลับมาปิดตลาดวันที่ 4ธ.ค.ที่ระดับ 32.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 31.93 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในฝั่งแข็งค่ากว่าแนว 32.00 ในช่วงแรก ก่อนที่จะลดช่วงบวกลง และอ่อนค่ากลับมาบางส่วนตามการปรับโพสิชั่นก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ

ประกอบกับตลาดกลับมารอติดตามการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า และรายละเอียดหลังมีรายงานข่าวระบุว่า ธปท. และกระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันในการแก้ประกาศเพื่อให้ร้านทองรายงานธุรกรรม

สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,429 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 1,181 ล้านบาท 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -22.86 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -19.19 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

 สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (8-12 ธ.ค.) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 31.80-32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมและ Dot Plot ของเฟด ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ในมุมมองผู้บริโภคเดือนพ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนก.ย. รวมถึงตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ตัวเลขการส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตด้วยเช่นกัน