‘มอก.เอส’สุดอืด ก.อุตฯดึงบิ๊กธุรกิจช่วยเข็น
สมอ.เตรียมเสนอปลัดกระทรวงอุตฯ ดันโครงการบิ๊กบราเธอร์ หนุนเอสเอ็มอีสู่ มอก.เอส หลังพบปัญหาที่ผ่านมามีค่าใช้จ่ายสูง 3-4 หมื่นบาทต่อรายการต้องล่าถอย ไม่ได้รับรองแม้แต่รายเดียว ลั่นลุยต่อยก 2
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าโครงการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) และวิสาหกิจชุมชน หรือ มอก.เอส (มอก.S) ว่า สมอ. เตรียมทำเรื่องเสนอต่อนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทำโครงการในลักษณะแบบพี่ช่วยน้อง หรือบิ๊กบราเธอร์ (Big Brother) โดยให้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งจะเป็นการถ่ายทอดความรู้ อาทิ ด้านการเงิน การตลาด การขาย กฎหมาย ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อนำมาต่อยอด และสร้างมูลค่าเพิ่มด้านต่างๆ ให้กับธุรกิจ และนำไปสู่การขอมาตรฐาน มอก.เอส ต่อไป
ที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มโครงการมีเอสเอ็มอีมายื่นขอรับรองมาตรฐาน มอก.เอสบ้าง แต่ประสบปัญหาค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สูง โดยบางรายการสูงถึง 3-4 หมื่นบาท ทำให้ต้องล่าถอยออกไป ส่งผลให้ปัจจุบันยังไม่มีเอสเอ็มอีได้มาตรฐาน มอก.เอส เลยแม้แต่รายเดียว อีกทั้ง มอก.เอส อยู่ตรงกลางระหว่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งผู้ประกอบการบางรายที่ได้ มผช. ก็จะพอใจที่จะอยู่ระดับดังกล่าว ส่วนบางรายที่มีศักยภาพก็จะยื่นขอเป็น มอก. เลย
“มอก.เอส ต้องการให้เป็นพื้นที่ของเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพเพิ่มจากการเป็นมาตรฐาน มผช. ให้มาพักอยู่ตรงกลาง เพื่อเตรียมที่จะอัพเกรดตัวเองสู่การเป็น มอก. หรือมาตรฐานสากลต่อไป แต่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายจากยังไม่มีงบประมาณสนับสนุน”
ทั้งนี้สมอ. เคยทำโครงการนำเสนอเพื่อของบประมาณมาสนับสนุนเอสเอ็มอีที่จะยื่นขอ มอก.เอสแล้ว แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติ เนื่องจากถูกมองว่ามีความซํ้าซ้อนกับโครงการของ มผช. ขณะที่หากจะขอเป็นงบประมาณสนับสนุนก็คงจะไม่ทันภายในปีนี้ เพราะ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้โครงการบิ๊กบราเธอร์เข้ามาช่วย
สมอ. ยืนยันว่าจะไม่มีการยกเลิกโครงการ มอก.เอส อย่างแน่นอน จากทุกปี สมอ. ตั้งเป้าที่จะกำหนดมาตรฐาน มอก.เอสให้ได้ประมาณ 40-50 เรื่อง ดังนั้นจะต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ เบื้องต้นได้หารือกับปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมไปบ้างแล้ว ท่านเห็นด้วย และให้ไปเขียนโครงการขึ้นมา เพื่อบรรจุเป็นวาระขอการอนุมัติ และประกาศเป็นนโยบายของกระทรวงต่อไป”
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,554 วันที่ 5 - 7 มีนาคม พ.ศ. 2563
