"ทรัมป์" ย้ำสหรัฐต้องได้ค่าตอบแทนจากดีลขาย TikTok

02 ก.ย. 2563 | 04:07 น.

ผู้นำสหรัฐยื่นคำขาดว่า การขายกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้ และรัฐบาลสหรัฐจะต้องได้รับค่าตอบแทนจากการขายกิจการดังกล่าว มิฉะนั้นการให้บริการของแอปติ๊กต็อกในตลาดสหรัฐจะถูกระงับโดยสิ้นเชิง

 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันไปยังเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซินเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ว่า "ผมบอกพวกเขาแล้วว่า ธุรกรรมการขายกิจการติ๊กต็อกจะมีเวลาแค่ถึงวันที่ 15 ก.ย.นี้เท่านั้น และผมยังบอกด้วยว่า สหรัฐจะต้องได้ค่าตอบแทนที่ดี"

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า สหรัฐจะเรียกเก็บค่าตอบแทนจากการขายกิจการติ๊กต็อกอย่างไร

ประธานาธิบดีทรัมป์ยื่นคำขาด รัฐบาลสหรัฐต้องได้รับค่าตอบแทน

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้สั่งให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่ของติ๊กต็อก ขายธุรกิจติ๊กต็อกในสหรัฐ เนื่องจากวิตกเกี่ยวกับการจัดการด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยติ๊กต็อกซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนั้น มีผู้ใช้งานราว 100 ล้านคนต่อเดือนในสหรัฐอเมริกา

 

ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมาที่จะห้ามการทำธุรกรรมใด ๆ กับติ๊กต็อก และไบแดนซ์ภายใน 45 วัน หากบริษัทไม่สามารถขายกิจการได้ทันภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ดังนั้น ติ๊กต็อกจึงต้องเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้ที่จะต้องปิดให้บริการในสหรัฐ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการขายกิจการ ขณะเดียวกัน บริษัทได้ยื่นฟ้องศาลในสหรัฐ ขอคัดค้านคำสั่งดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์แล้วด้วยเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา

สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ไบต์แดนซ์ได้จัดทำแผนการชดเชยให้กับพนักงานและผู้ค้าของติ๊กต็อกในสหรัฐในกรณีที่มีการระงับบริการ นอกจากนี้ ยังระงับการจ้างงานใหม่ในสหรัฐแล้ว อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

นายเควิน เมเยอร์ อดีตซีอีโอติ๊กต็อก ที่ลาออกเนื่องจากทนแรงกดดันไม่ไหว

นอกจากนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซี สื่อใหญ่ของสหรัฐยังรายงายว่า ติ๊กต็อกได้คัดเลือกบริษัทที่มาขอซื้อกิจการติ๊กต็อกในสหรัฐ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียแล้ว และอาจจะประกาศข้อตกลงในวันนี้ (2 ก.ย. เวลาท้องถิ่นสหรัฐ) โดยคาดว่าราคาขายจะอยู่ที่ระหว่าง 20,000-30,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้ซื้อจะเป็นการชิงชัยระหว่างกลุ่มไมโครซอฟต์ที่จับมือกับวอลมาร์ท กับบริษัท ออราเคิล

 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าติ๊กต็อกได้คัดเลือกผู้ที่จะมาซื้อแล้ว แต่รัฐบาลจีนอาจยับยั้งหรือทำให้ข้อตกลงล่าช้าได้ เนื่องจากจีนได้ปรับบัญชีการส่งออกเทคโนโลยีใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ส.ค.) ซึ่งรวมเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ติ๊กต็อกใช้ ไปอยู่ในบัญชีเทคโนโลยีที่ต้องขออนุญาตการส่งออกด้วย

 

ทั้งนี้  ไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก ออกมายืนยันว่า บริษัทจำเป็นจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีนก่อนจึงจะสามารถขายบริษัทในสหรัฐได้

ในส่วนของผู้ซื้อนั้น มีความเข้มข้นมากขึ้นเมื่อ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐอย่างวอลมาร์ทได้โผล่มาเป็นคู่ชิงอย่างไม่คาดคิดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวอลมาร์ทให้เหตุผลว่า ติ๊กต็อกจะช่วยหนุนความพยายามในการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของบริษัท

 

ข่าวระบุว่า เดิมทีวอลมาร์ทหาทางเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยได้จับมือกับกลุ่มบริษัทที่มีทั้งอัลฟาเบตและซอฟต์แบงก์ร่วมอยู่ด้วย แต่รัฐบาลสหรัฐต้องการให้บริษัทเทคโนโลยีเป็นแกนนำในการทำข้อตกลง ดังนั้น วอลมาร์ทจึงหันไปจับมือกับไมโครซอฟต์ที่กำลังเจรจาซื้อกิจการติ๊กต็อกมาระยะหนึ่งแล้ว  โดยวอลมาร์ทยอมเป็นเพียงผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในติ๊กต็อก

 

ปัจจุบัน กิจการของติ๊กต็อกในสหรัฐอเมริกา มีนางวาเนสซา พาพพาส เป็นประธานรักษาการ เนื่องจากนายเควิน เมเยอร์ ซีอีโอติ๊กต็อก ได้ประกาศลาออกเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อสองสามเดือนก่อนเท่านั้น

 

ข้อมูลอ้างอิง

Trump Insists on Compensation for U.S. in Any TikTok Sale

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ซีอีโอ “ติ๊กต็อก” ลาออกแล้ว หลังถูกสหรัฐกดดันหนัก

“ติ๊กต็อก” ฟ้องรัฐบาลสหรัฐ ค้านคำสั่งแบน ไร้หลักฐานกล่าวหา

"ทรัมป์"บีบ"ไบต์แดนซ์"ขาย"ติ๊กต็อก"ในสหรัฐภายใน 90 วัน

“ทรัมป์-รอสส์” เป็นจำเลย ถูกกลุ่มผู้ใช้ “วีแชท” ยื่นฟ้องแล้ว

สหรัฐแบน “วีแชท” สะเทือนเงินหยวน-หุ้นเทนเซนต์