Update ต้านไม่ไหว คลังหั่นจีดีพีปีนี้เหลือ2.8%

สศค.ปรับลดประมาณการจีดีพีปีนี้ จากเดิม 3% เหลือ 2.8% หลังส่งออกทรุกหนักกว่าคาด มองติดลบสูง 2.5% เชื่อสหรัฐตัดสิทธิ์ GSP ไทยไม่กระทบส่งออกปีนี้แล้ว แต่รอลุ้นปีหน้า ยังตอบไม่ได้ต้องมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มหรือไม่ ขอรอดูสถานการณ์ก่อน

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า สศค.ปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ปี 2562 ลงเหลือ 2.8% โดยมีค่าเฉลี่ยที่ 2.6-3% จากคาดการณ์เดิมจะขยายตัว 3% เนื่องจากการส่งออกติดลบมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยจะติดลบสูงถึง 2.5% จากเดิมคาดการณ์ติดลบเพียง 0.9% ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าและการกีดกันทางการค้า ทำให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทย 15 ประเทศขยายตัวลดเหลือเพียง 3.3% จากที่ประมาณการไว้ 3.5% ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่าที่คาดการณ์จาก 31.24 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาเป็น 31.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่าขึ้น 3.8% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน

ลวรณ แสงสนิท

ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศระยะสั้น ทั้งมาตรการชิมช้อปใช้และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น มีส่วนในการประคองเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง โดยเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจจากมาตรการชิมช้อปใช้อย่างน้อย 10,000 ล้านบาท จากการจ่ายเงิน 1,000 บาทของรัฐบาล และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ขณะนี้ ปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรในโครงการต่างๆ แล้ว 34,000 ล้านบาท

ส่วนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น ยังไม่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจในขณะนี้ เพราะยังไม่มีเม็ดเงินลงสู่ระบบอย่างเป็นทางการ และยอมรับว่า การตัดสิทธิ์ GSP สินค้าไทยที่จะส่งออกไปสหรัฐนั้น จะมีผลกระทบต่อการส่งออกไทยบ้าง แต่จะมีผลในปีหน้า ซึ่งไทยยังมีเวลาเจรจาอีก 6 เดือนจากนี้ โดยเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงต่างประเทศที่ต้องไปเจรจา คงต้องรอดูผลในช่วงเวลาดังกล่าวก่อน ดังนั้นสศค.จึงยังคาดการณ์การส่งออกของไทยในปีหน้าจะยังขยายตัวได้ 2.6% อยู่ ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นเป็น 3% ได้

“จีดีพีในครึ่งปีหลังของปีนี้คาดการณ์น่าจะขยายตัวได้ถึง 3.1% โดยได้รับอานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นในประเทศต่างๆ และการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตดี จากครึ่งปีแรกขยายตัวได้เพียง 2.6% ทำให้จีดีพีปีนี้ทั้งปีขยายตัวได้ 2.8% ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ตอนแรกที่ 3% ส่วนปีหน้าโตได้ 3.3% ซึ่งจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีกหรือไม่นั้น ต้องอยู่ที่ภาวะเศรษฐกิจช่วงนั้น และความเหมาะสมของเวลาด้วย”นายลวรณ กล่าว

สำหรับการประมาณการเศรษฐกิจไทยนั้น สศค.ประเมินจากสมมติฐาน 5 ด้าน ประกอบด้วย การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า 15 ประเทศ ที่ปีหน้าคาดการณ์จะขยายต้วได้ 3.3% เท่ากับปีนี้, ค่าเงินบาทที่คาดว่าปี 2563 คาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 30.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ, ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปีหน้าจะทรงตัวในระดับปัจจุบันที่ 61.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล,จำนวนนักท่องเที่ยวที่ในปี 2563 คาดว่าจะมีจำนวน 41.5 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท และสมมติฐานรายจ่ายภาครัฐ โดยในปีหน้าจะอยู่ที่ 3.21 ล้านล้านบาทและรายจ่ายลงทุนรัฐวิสาหกิจจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.251 ล้านล้านบาทในปีหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! 'คลัง'ปรับเป้า GDP ปีนี้เหลือ 2.8%

ชิมช้อปใช้ เครื่องมือดันศก. ลุ้น28ต.ค.ได้ตามเป้าหรือไม่

พิษ GSP ฉุดหุ้นส่งออกร่วงยกแผง