ลุ้น‘ทรัมป์’นําทัพ มะกันบุกไทย

25 ต.ค. 2562 | 03:45 น.

 

เปิดไฮไลต์เวทีภาคเอกชนคู่ขนานอาเซียนซัมมิท หอการค้า ไทยผนึกหอการค้ามะกันดึง “ทรัมป์”ร่วมงานใหญ่ “อินโด-แปซิฟิกฟอรั่ม” สร้างร่วมมือ 3 ด้าน คานอำนาจจีน ขนทัพ 400 นักธุรกิจมะกันร่วมวงถก ขณะเวที ABIS ดึงผู้นำอาเซียน-คู่เจรจาโชว์วิสัยทัศน์ดันอาเซียน 4.0

การประชุมสุดยอดอาเซียน(อาเซียนซัมมิท)ครั้งที่ 35 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน 2562 นอกจากมีไฮไลต์เป็นเวทีประชุมและพบปะกันระหว่างผู้นำอาเซียนด้วยกันเอง และผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาแล้ว ยังมีเวทีของภาคเอกชนที่จะจัดขึ้นคู่ขนานอีก 2 เวทีใหญ่ด้วย

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 จะมีการประชุมอินโด-แปซิฟิกฟอรั่ม ระหว่างภาครัฐและเอกชนของไทย-สหรัฐฯ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในส่วนของสหรัฐฯจะมีนักธุรกิจจากหอการค้าสหรัฐฯ เข้าร่วมประมาณ 400 คน และนักธุรกิจไทยเข้าร่วมประมาณ 1,000 คน โดยจะหารือกันถึงความร่วมมือด้านต่างๆเน้นหนักด้านดิจิทัล ด้านพลังงาน และด้านการเงิน จะมีรัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีพลังงาน รัฐมนตรีพาณิชย์ และรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย

“อินโด-แปซิฟิกฟอรั่มระหว่างไทย-สหรัฐฯกำลังรอยืนยันว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมาหรือไม่ ซึ่งหากมานายกรัฐมนตรีของไทยก็ต้องไปร่วมงานแน่นอน ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำลังประสานงาน ซึ่งทั้งสหรัฐฯ จีน ยุโรปเวลานี้ให้ความสำคัญกับไทย โดยมองเราเป็นเซ็นเตอร์ของอาเซียนในหลายเรื่อง”

ด้านนายอรินทร์ จิรา ประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน(ASEAN-BAC) เผยว่า ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2562 สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะจัดงาน ASEAN Business Investment Summit (ABIS)2019 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด(Theme) “Empowering ASEAN 4.0” ประกอบด้วย 4 หัวข้อหลักคือ 1.Digital Infrastructure 2.Digital Connectivity 3. Human Resource Development และ 4. MSMEs

ลุ้น‘ทรัมป์’นําทัพ  มะกันบุกไทย

ทั้งนี้จะมีการเชิญผู้นำกลุ่มอาเซียน จากประเทศคู่เจรจา และประเทศมหาอำนาจ รวมถึงภาคธุรกิจของอาเซียนและคู่เจรจาราว 1,000 คนร่วมเวทีสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเชิญผู้นำแสดงวิสัยทัศน์เป้าหมายหลักเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงของอาเซียนไปสู่ยุค 4.0 ตลอดห่วงโซ่แวลูเชนว่าจะต้องเตรียมตัวและรับมือกันอย่างไร รวมถึงการผลักดันการหาแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย(MSMEs)

“ผู้นำที่คอนเฟิร์มแล้วว่าจะมางานนี้มีนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เราก็ได้เชิญไป แต่ยังลุ้นอยู่ว่าจะมาได้หรือไม่ ถ้ามาไม่ได้ก็จะส่งวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพาณิชย์มาแทน เช่นเดียวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะส่งนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง มาแทน”

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า คาดหวังการประชุมผู้นำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP หรืออาเซียนบวก 6 ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)ในช่วงอาเซียนซัมมิทครั้งนี้ผู้นำจะได้ข้อสรุปและออกแถลงการณ์ประกาศความสำเร็จของการเจรจาอาร์เซ็ป เพื่อให้มีการลงนามและมีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งจะมีผลให้สมาชิก 16 ประเทศมีการค้า การลงทุนและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกันมากขึ้น ช่วยลดผลกระทบจากสงครามการค้า เบร็กซิท รวมถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจ การค้า และการเมืองของโลกที่ผันผวนได้  

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3517 วันที่ 24-26 ตุลาคม 2562

ลุ้น‘ทรัมป์’นําทัพ  มะกันบุกไทย