พนังกันน้ำพัง"กรมชล"เร่งช่วยชาวบ้านร้อยเอ็ด
ฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โพดุล” ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำยัง บริเวณจังหวัดร้อยเอ็ด เพิ่มสูงจนไหลล้นข้ามพนังกั้นน้ำลำน้ำยัง ทำให้พนังกั้นน้ำทรุดตัวและขาดลง กรมชลประทานเร่งวางแนวทางการระบายน้ำที่ท่วมขัง หวังให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธพลของพายุโซนร้อน “โพดุล” ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ลุ่มน้ำยัง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกินกว่าพนังกั้นน้ำในลำน้ำยังจะรับได้ ทำให้มีน้ำล้นข้ามพนังกั้นน้ำบริเวณ กม .12+000 ก่อนที่พนังกั้นน้ำจะเกิดการ ทรุดตัวและขาดลง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(31 ส.ค. 62) ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำยังที่สถานี E.92 ใกล้กับจุดที่พนังขาดสูงกว่าระดับคันพนังกั้นน้ำประมาณ 2.64 เมตร ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านช่องที่ขาดนี้ จะไหลลงไปสมทบกับน้ำในพื้นที่ลงสู่ตอนล่าง ก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำยังและแม่น้ำชีตามลำดับ สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสะพานแบริ่งมาติดตั้ง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้สัญจรชั่วคราวก่อน จากนั้นจะดำเนินการซ่อมแซมในภายหลัง
กรมชลประทาน โดยสำนักเครื่องจักรกล ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง บริเวณสะพานข้ามลำน้ำยัง บ้านกุดเรือ ต.นางาม อ.เสลภูมิ เพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำชีให้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว อีก 15 เครื่อง เร่งสูบระบายน้ำออกจากบึงเกลือ เพื่อรองรับน้ำจากการตัดยอดน้ำในลำน้ำยัง ที่จะไหลลงมาเพิ่มเติม ในขณะที่เขื่อนยโสธร จ.ยโสธร และเขื่อนธาตุน้อย จ.อุบลราชธานี ได้ยกบานประตูน้ำพ้นน้ำทุกบานแล้ว เพื่อให้น้ำในแม่น้ำชีไหลได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ทำการขุดเปิดคันพนังกั้นน้ำท้ายสะพานบ้านบาก เพื่อเร่งระบายน้ำที่ล้นจากบึงเกลือ ให้ไหลลงสู่แม่น้ำชีเร็วที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายจากการขยายตัวของพื้นที่น้ำท่วมและป้องกันคันพนังกั้นน้ำลำน้ำยังไม่ให้ขาดได้อีก
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชี ที่สถานี E.54 บ้านแก่งยาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ระดับน้ำ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่สถานี E.70 บ้านกุดกว้าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม ระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งประมาณวันที่ 3 ก.ย. 62 ส่วนที่สถานี E.92 บ้านท่างาม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม ระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งประมาณวันที่ 4 ก.ย. 62 จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิด หากประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วมหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งไปที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง