ตำรวจสอบสวนกลาง บุกค้น 17 บ.นอมินีรัสเซีย คาดเอี่ยวแก๊งฟอกเงิน

04 เม.ย. 2567 | 13:45 น.

ตำรวจสอบสวนกลาง บุกค้น 17 บริษัทนอมินีรัสเซีย รับทำเอกสารเท็จ คาดเอี่ยวขบวนการฟอกเงิน ขณะที่ตำรวจภูเก็ตจับกุมชาวรัสเซียเปิดบริษัทให้เช่ารถ-ร้านอาหาร ใช้คนไทยเป็นนอมินีความเสียหายเกือบ 80 ล้านบาท เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลต่อไป

ตำรวจสอบสวนกลางเข้าตรวจค้นบริษัทต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของคนต่างชาติ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต 8 จุด 17 บริษัท หลังมีคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หลอกให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับควบคุมโทรศัพท์ จากนั้นดูดเงินจากบัญชีผู้เสียหาย โอนไปยังบัญชีของคนร้ายกว่า 500,000 บาท

จากการสืบสวนพบว่าเงินถูกโอนไปยังบัญชีชายชาวรัสเซียคนหนึ่ง ซึ่งถอนเงินสดออกจากบัญชีผ่านธนาคารในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ในเวลาต่อเนื่องกัน เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของชายชาวรัสเซีย มีพฤติการณ์รับโอนเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีจากกระเป๋าดิจิทัลที่ไม่มีการยืนยันตัวตน (non-custodial wallet) จากนั้นจะมีการขายเหรียญจำนวนมาก โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทยของตน และถอนเงินที่ได้ออกเป็นเงินสดทันที โดยช่วงวันที่ 7 ก.ค.-19 พ.ย. 66 มีการถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร และตู้ ATM 3 บัญชี รวมเป็นเงินประมาณ 186 ล้านบาท อย่างผิดปกติ เชื่อว่าเป็นรูปแบบการฟอกเงินอย่างหนึ่ง

ส่วนหลักฐานที่ชายชาวรัสเซียใช้ในการเปิดบัญชีเป็นใบอนุญาตทำงาน ยืนยันว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่งในภูเก็ต แต่เมื่อตรวจสอบบริษัทกลับไม่มีอยู่จริง จึงเชื่อว่ามีการจดทะเบียนขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับสร้างเอกสารเท็จให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ โดยบริษัทดังกล่าวมีกรรมการและผู้ถือหุ้นเป็นหญิงไทย 2 คน หญิงรัสเซีย 1 คน กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัทอื่นๆ อีก 38 บริษัท เชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเกี่ยวกับแจ้งเอกสารเท็จกับทางการ และเป็นนอมินีให้ชาวต่างชาติ

สำหรับผลการตรวจค้นทั้ง 17 บริษัท พบหญิงไทย 2 คน รับว่าได้จัดตั้งบริษัทรับจ้างจดทะเบียนบริษัท, รับดำเนินการขอใบอนุญาตทำงาน, ขอวีซ่าให้กับชาวต่างชาติ และยื่นขอใบอนุญาตต่างๆ ให้กับชาวต่างชาติ โดยมีการจัดตั้งบริษัทที่ไม่ได้มีการดำเนินกิจการขึ้นมาใช้สร้างเอกสารเท็จเพื่อยื่นขออนุญาตต่างๆ ให้กับชาวต่างชาติ บริเวณชั้น 2 ของอาคาร มีการจัดวางอุปกรณ์คล้ายสำนักงานไว้สำหรับจัดฉากถ่ายภาพการทำงาน เพื่อใช้ในการยื่นขอใบอนุญาตต่าง ๆ เจ้าหน้าที่จึงส่งผู้ต้องหา พร้อมของกลาง อาทิ คอมพิวเตอร์สำหรับจัดทำเอกสารเท็จและจัดเก็บข้อมูลลูกค้าชาวต่างชาติ ตราประทับบริษัทต่างๆ กว่า 50 บริษัท และเอกสารต่างๆ ส่งดำเนินคดี

ขณะเดียวกันตำรวจภูเก็ตยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 4 คน เป็นคนไทย 1 คน ชาวรัสเซีย 3 คน หลังมีข้อมูลบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยลักลอบประกอบอาชีพหรือประกอบธุรกิจอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า ร้านอาหาร OCTOPUS ถนนบ้านดอน-เชิงทะเล ต.เชิงทะเล อ.ถลาง มีการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย โดยกลุ่มบุคคลด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ช่วยเหลือจดทะเบียนเพื่อจัดตั้งบริษัท เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนของคนต่างด้าว โดยเปิดทั้งบริษัทให้เช่ารถ และร้านอาหาร มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 80 ล้านบาท

จากการนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 แห่งวันนี้ ทั้งใน อ.เมือง และ อ.ถลาง พบเอกสารหลายอย่างเกี่ยวกับการดำเนินการกิจกรรมของบริษัท ตราประทับบริษัทมีลักษณะการดำเนินกิจการใกล้เคียงกัน คอมพิวเตอร์ รถจักรยานยนต์ 12 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล