รู้ตัว‘ไอ้โม่ง’ร่วมขบวนการแล้ว เร่งเอาผิดคดีถุงมือยางแสนล้าน

 ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ที่ดำเนินการโดยพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. ในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 มีความคืบหน้าใกล้ได้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังแล้ว

 นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึง ว่า ขณะนี้แม้ผลสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่อคส.แต่งตั้งขึ้นมีรองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานยังสอบไม่แล้วเสร็จ แต่กระบวนการทางศาลนั้นเดินหน้าแล้ว โดยล่าสุดทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เดินหน้าสืบทรัพย์และติดตามเงิน 2,000 ล้านบาท ที่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.ได้จ่ายเป็นค่ามัดจำสินค้าให้กับบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ผู้ผลิตถุงมือยางแล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน

 โดยตั้งแต่เกิดเรื่องวันที่ 10 กันยายนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายนได้มีการสั่งอายัดและเริ่มกระบวนการขึ้นศาลแล้ว ซึ่งป.ป.ช.ได้รวบรวมสำเนาและส่งไปให้ศาลอาญาเพื่อดำเนินการไต่สวนบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัดและอีก 7 บริษัทที่เป็นคู่สัญญากับอคส. ซึ่งก็ต้องไปไล่บี้ซัดทอดว่าเป็นกลลวงหรือเจตนาลวงหรือไม่ แต่เห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นเจตนาลวง ที่เป็นการซื้อสด-ขายเชื่อและเก็บเงินปลายทาง แต่ทั้งนี้กระบวนการสืบทรัพย์และยึดทรัพย์เป็นอำนาจของป.ป.ช.และปปง. ที่อคส.ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้เพราะเป็นกระบวนการภายในของสองหน่วยงาน 

ทั้งนี้มูลค่าเงินมัดจำซื้อถุงมือยาง 2,000 ล้านบาทในครั้งนี้ แบ่งเป็นเงินที่มาจากการขายข้าวถุง 1,700 ล้านบาท และอีก 300 ล้านบาท เป็นเงินสวัสดิการ เงินสะสมของพนักงานอคส.และอื่นๆ คาดว่าในสัปดาห์หน้าตนจะเข้าไปชี้แจงกับกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงของ ปปง. เนื่องจากทางปปง.ได้สอบถามและขอข้อมูลเพิ่มเติมมา ซึ่งอคส.คงไปชี้แจงในเรื่องที่ทางกรรมาธิการสงสัยเพราะในส่วนของเอกสารต่างๆนั้นได้ส่งมาให้หมดแล้ว

 อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเชิงลึกของอคส. พบว่า เจ้าหน้าที่ อคส. บางคน ที่อยู่ในขบวนการจัดซื้อถุงมือยาง ได้เปิดเผยรายชื่อบุคคลสำคัญที่เป็นผู้สั่งการให้จัดซื้อถุงมือยางในครั้งนี้ , บุคคลที่เป็นตัวกลางในการนัดพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่ อคส. กับบริษัทเอกชน 7 ราย ที่ทำสัญญาซื้อถุงมือยางกับ อคส. , ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ในขั้นตอนการดำเนินการ , คำสั่งการให้เจ้าหน้าที่ อคส. จัดเตรียมคลังสินค้าของ อคส. เพื่อจัดเก็บถุงมือยางที่บริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ผู้ผลิตจะส่งมอบให้กับ อคส. เป็นต้นโดยถือเป็นหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การโยงถึงตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังนอกเหนือจากพ.ต.อ.รุ่งโรจน์

“เรื่องนี้ผมได้ทำรายงานแจ้งให้คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์รับทราบแล้ว และได้สั่งการใก้อคส.ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่กระทำผิด เช่น ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ให้ออก ไล่ออก เป็นต้น”

 สำหรับการทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท เกิดขึ้นในช่วงที่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เป็นรักษาการผู้อำนวยการ อคส. เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 โดยได้ทำสัญญากับการ์เดียนโกลฟส์ ผู้ผลิต และผู้ซื้อถุงมือยางจาก อคส. เพื่อไปขายต่ออีก 7 ราย และได้นำเงินของ อคส. 2,000 ล้านบาทจ่ายให้การ์เดียนโกลฟส์เป็นค่ามัดจำสินค้า โดยไม่ผ่านการพิจารณาของบอร์ด อคส. ถือว่าผิดกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เป็นการกระทำโดยมิชอบ ส่งผลให้บอร์ด อคส. มีมติให้นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่ง ผอ. อคส. คนใหม่เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 ทำหนังสือถึงดีเอสไอ , ป.ป.ช.พิจารณาความผิด และส่งเรื่องให้ ปปง. อายัดเงิน 2,000 ล้านบาท รวมถึงให้ระงับการดำเนินการตามสัญญาทั้งหมด