ดวงแข็ง! รองปธน.อาร์เจนตินาเฉียดตาย มือปืนลั่นไกไม่ออกขณะจ่อยิงระยะเผาขน

03 ก.ย. 2565 | 02:13 น.

เกิดเหตุระทึกในอาร์เจนตินาช่วงปลายสัปดาห์ เมื่อนางคริสตินา เฟอร์นันเดส เดอ เคิร์ชเนอร์ รองประธานาธิบดี เฉียดตายหวุดหวิดจากแผนลอบสังหารใกล้บ้านพัก หลังจากปืนของชายผู้ก่อเหตุมีปัญหาขัดลำกล้อง ทำให้เขาลั่นไกไม่ออกขณะเล็งยิงระยะประชิด

สื่อต่างประเทศรายงานเหตุการณ์ ลอบสังหาร ดังกล่าวโดยเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ในระหว่างที่ นางคริสตินา เฟอร์นันเดส เดอ เคิร์ชเนอร์ รองประธานาธิบดี อาร์เจนตินา วัย 69 ปี ก้าวลงจากรถด้านหน้าอพาร์ตเมนต์ของเธอช่วงค่ำวันพฤหัสฯ (1 ก.ย. เวลาท้องถิ่น) ขณะที่เธอเริ่มจับมือทักทายผู้ที่มาแสดงความยินดี จู่ ๆชายผู้หนึ่งก็พุ่งตรงมาที่เธอพร้อมกับปืนในมือที่เห็นได้อย่างชัดเจน เขายกปืนจ่อห่างจากใบหน้าของเธอในระยะไม่กี่นิ้ว ก่อนที่จะลั่นไก แต่ไร้สรรพเสียงใด ๆ เนื่องจากปืนของเขาขัดลำกล้อง

 

ทีมรักษาความปลอดภัยของเคิร์ชเนอร์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เข้ารวบตัวชายคนดังกล่าวทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยชื่อภายหลังว่า เขาคือ นายเฟอร์นันโด อันเดร ซาบัก มอนตีล วัย 35 ปี เป็นชาวบราซิลที่มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายของข้างทาง เขาเข้ามาอาศัยอยู่ในอาร์เจนตินาตั้งแต่ปี 2541  แต่ก็ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน

ภาพจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าเคิร์ชเนอร์ถูกจ่อปืนเล็งในระยะเผาขน แต่เดชะบุญปืนขัดลำกล้อง ยิงไม่ออก

ในส่วนของรองประธานาธิบดีเคิร์ชเนอร์นั้น เธอไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้แต่อย่างใด นับเป็นความพยายามลอบสังหารที่ล้มเหลว แต่ก็กลายเป็นเรื่องสะเทือนขวัญทั้งประเทศ และสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับการเมืองอาร์เจนตินาเข้าไปอีก โดยทางการไม่สามารถระบุแรงจูงใจในการก่อเหตุของชายผู้นี้ได้ ทั้งยังต้องสืบสวนเพิ่มเติมว่า นี่เป็นการก่อเหตุเพียงลำพัง หรือมีการวางแผนเป็นขบวนการใหญ่อยู่เบื้องหลัง

 

ทั้งนี้ บรรดานักการเมืองอาร์เจนตินาได้ออกมาประณามเหตุลอบสังหารนี้ ทั้งประธานาธิบดีอัลเบอร์โต เฟอร์นันเดส ที่ออกแถลงการณ์ทันทีในช่วงดึกวันเกิดเหตุเพื่อบอกกล่าวกับชาวอาร์เจนตินาว่า รองประธานาธิบดีเคิร์ชเนอร์เกือบจะถูกสังหาร เดชะบุญที่ว่า ปืนกึ่งอัตโนมัติในมือของชายผู้ก่อเหตุที่บรรจุกระสุนไว้ 5 นัด ขัดลำกล้องทำให้ไม่สามารถลั่นไกออกไปได้

 

อาร์เจนตินา นับเป็นประเทศที่มีประวัติเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงทางการเมืองมาโดยตลอด แต่กระนั้นก็ตาม ข่าวการลอบสังหารอย่างอุกอาจและเหนือความคาดหมายครั้งนี้ ก็ทำให้ทั้งประเทศต้องอยู่ในภาวะช็อคกันทั่วหน้าในช่วงเช้าวันศุกร์ (2 ก.ย.) ท้องถนนทั่วกรุงบัวโนส ไอเรส นครหลวง เงียบสงัด หลังจากประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ประกาศให้วันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดทั่วประเทศ หลังเหตุการณ์ที่ผู้นำอาร์เจนตินา เรียกว่าเป็น “เหตุการณ์เลวร้ายที่สุด” นับตั้งแต่ที่ประเทศฟื้นฟูประชาธิปไตยในปี 1983 (พ.ศ.2526) หลังการปกครองโดยรัฐบาลทหารมายาวนาน

ด้านพันธมิตรทางการเมืองของรองประธานาธิบดีเคิร์ชเนอร์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศช่วงปี 2007-2015 เรียกร้องให้ประชาชนออกมาเดินขบวนในเมืองหลวงของอาร์เจนตินา เพื่อสนับสนุนรองประธานาธิบดีที่ถูกลอบสังหาร และแสดงพลังต่อต้านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คริสตินา เฟอร์นันเดส เดอ เคิร์ชเนอร์ รองประธานาธิบดีอาร์เจนตินา เฉียดตายหวุดหวิด

ทั้งนี้ นางคริสตินา เฟอร์นันเดส เดอ เคิร์ชเนอร์ (Cristina Fernández de Kirchner) เป็นนักการเมืองหญิงที่มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน เธอได้รับความสนใจตลอดชีวิตในแวดวงการเมืองของอาร์เจนตินามาเกือบ 20 ปี โดยเธอเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของอาร์เจนตินาที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงปี 2003-2007 ก่อนที่จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากนายเนสตอร์ เคิร์ชเนอร์ สามีของเธอ

 

เธอดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2007-2015 และกลายเป็น ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศอาร์เจนตินาที่มาจากการเลือกตั้ง แต่หลังการครองตำแหน่งในสมัยที่สอง รัฐบาลของเธอรวมทั้งตัวเธอเองก็ถูกรุมเร้าด้วยข่าวการทุจริตคอร์รัปชัน ขณะที่เศรษฐกิจก็ตกต่ำย่ำแย่ อาร์เจนตินาต้องผิดนัดชำระหนี้ในปี 2014 ซึ่งเป็น 1 ปีก่อนที่เธอจะก้าวลงจากอำนาจ พร้อมด้วยความนิยมที่หล่นลงมาเหลือเพียง 50%

 

อย่างไรก็ตาม เดือนตุลาคมปี 2019 เคิร์ชเนอร์ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ทำให้เธอเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกของอาร์เจนตินา ที่ได้กลับเข้ามาร่วมรัฐบาลในฐานะรองประธานาธิบดี