อาร์เจนตินาอัดยาแรง ขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อรวดเดียว 3%

17 มิ.ย. 2565 | 03:23 น.

ธนาคารกลางอาร์เจนตินาประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3% สู่ระดับ 52% จากเดิม 49% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 6 ในปีนี้ หลังจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นรุนแรงถึง 29.3% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565

แถลงการณ์ของ ธนาคารกลางอาร์เจนตินา เผยแพร่วานนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่า แม้ว่า อัตราเงินเฟ้อ ในประเทศจะเริ่มชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่ธนาคารกลางยังคงมีเป้าหมาย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่จะกระตุ้นการออมในรูปสกุลเงินเปโซอาร์เจนตินา

 

ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุว่า ระบบเศรษฐกิจของอาร์เจนตินามีช่องทางการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างน้อย  การปรับขึ้นดอกเบี้ยถือเป็นแนวทางที่ดีที่จะสนับสนุนให้ประชาชนหันมาออมเงินในรูปสกุลเงินเปโซ นอกจากนี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยยังเป็นเครื่องมือในการลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อด้วย

 

ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอาร์เจนตินาเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกในขณะนี้ นั่นคือทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดของเฟดในรอบ 28 ปี

 

ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสฯ (16 มิ.ย.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี ขณะที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ -0.25% จากระดับ -0.75% ซึ่งเป็นการขึ้นครั้งแรกในรอบ 15 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2550  

นอกจากนี้ ธนาคารกลางฮังการี บราซิล ไต้หวัน และฮ่องกง ต่างก็ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน

 

อ่านเพิ่มเติมแบงก์ชาตินานาประเทศพาเหรดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามเฟด

 

ด้าน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) แม้จะขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และประเทศอื่น ๆ แต่ก็ได้ส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า ECB จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ค. และก.ย.ที่กำลังจะมาถึง โดยนายมาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ยอมรับว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกันในประเทศสมาชิกยูโรโซน

มาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลี อดีตประธาน ECB

นายดรากี ซึ่งเป็นอดีตประธาน ECB ให้เหตุผลว่า สหรัฐมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อสูงกว่ายูโรโซน จึงทำให้การปรับอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าสหรัฐ

ทั้งนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ โดยแถลงการณ์ของ ECB ระบุว่า

 

"ECB มีความประสงค์ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค. และปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนก.ย. ซึ่งหากเงินเฟ้อในระยะกลางยังคงมีแนวโน้มพุ่งขึ้นต่อไป ECB ก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในเดือนก.ย. ส่วนหลังจากเดือนก.ย.ไปแล้ว ทาง ECB จะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป"