“ฤกษ์อารี นานา” ทายาทนักประวัติศาสตร์ ปลุกคนรุ่นใหม่หวงประเทศ

27 เม.ย. 2566 | 08:51 น.

ทำความรู้จัก “ฤกษ์อารี นานา” ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 17 พรรครวมไทยสร้างชาติ ทายาทนักประวัติศาสตร์ชื่อดัง พร้อมปลุกคนรุ่นใหม่ หวงประเทศ ไม่มองการเมืองเชิงอ้างอิงอุดมการณ์ พร้อมอาสาพัฒนาเพื่ออนาคต

“ผมเป็นห่วงการเมือง เมื่อเป็นการเมืองเชิงอ้างอิงอุดมการณ์มากไป คนจะใช้ความรู้สึกมากกว่าเหตุผลในการตัดสินใจ ซึ่งตัวเองอยากลงมาพูดคุย เพื่อทำให้สังคมไทย และคนรุ่นใหม่ใจเย็นนิดนึง เพราะการเมืองไม่ใช่แค่เลือกมาแล้วมายกเลิก แต่ต้องนั่งคุยแลกเปลี่ยนและปรับปรุงให้ดีขึ้น”

ความในใจของคนการเมืองรุ่นใหม่ “ฤกษ์อารี นานา” ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 17 พรรครวมไทยสร้างชาติ แม้นามสกุลเขาจะเป็นคนจากตระกูลใหญ่ เพราะเป็นทายาทของ “ไกรฤกษ์ นานา” นักประวัติศาสตร์ชื่อดังของประเทศไทย แต่การตัดสินใจเข้ามาสู่การเมืองกับศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจส่วนตัวล้วน ๆ 

เขาถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดแบบเจาะลึกกับฐานเศรษฐกิจว่า เป็นความตั้งใจส่วนตัวที่อยากมาทำงานการเมืองในฐานะของคนรุ่นใหม่ แม้ในช่วงแรกจะลังเลกับทางเลือกในชีวิตตัวเองระหว่างการเป็นทูต และการเป็นนักการเมือง แต่ท้ายที่สุดก็เลือกการเมือง เพราะต้องการทำอะไรเพื่อประเทศไทย ซึ่งเขามองว่า จะมีอนาคตที่ดีกว่านี้อีกมาก

สิ่งที่มองและตั้งความหวังนั้น หาใช่แค่ความรู้สึก เพราะ “ฤกษ์อารี” ยอมรับว่า มาจากการเห็นอะไรหลายอย่างในช่วงที่ผ่านมา โดยเขาเองนั้น เป็นคนกรุงเทพฯ ภาพแรกในชีวิตก็ถ่ายที่หนอกจอก แต่อยู่ไทยไม่นานก็ย้ายไปเรียนมัธยมที่ประเทศฝรั่งเศส และใช้เวลาจนเรียนจบปริญญาตรี ก่อนจะเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ และกลับมาทำงานที่สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

“สมัยเรียนทำงานหลากหลายเด็กเสิร์ฟ แคชเชียร์ และอีกสารพัด คิดอยู่ในใจตั้งแต่ต้นว่าถ้าไม่ไปทางทูตก็เป็นการเมือง ตอนแรกคิดว่า น่าจะเป็นทางทูตเพราะพูดได้หลายภาษา ทั้งภาษาไทย ฝรังเศส อังกฤษ และลาว และก็ได้มาทำงานที่สถานทูตฝรั่งเศส”

“ฤกษ์อารี นานา” ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 17 พรรครวมไทยสร้างชาติ

สมัครทหารเกณฑ์ เรียนรู้ชีวิต

ด้วยชีวิตคนเรามักมีเรื่องไม่คาดในเสมอ ๆ แล้วเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มชื่อ “ฤกษ์อารี” เพราะเขาเล่าว่า ในช่วงแรกที่กลับมาไทย ตัดสินใจไปเกณฑ์ทหารก่อน โดยสมัครเข้าไปเป็นทหารเลย 6 เดือน ไม่ได้จับใบดำใบแดง เพราะมองว่าเป็นหน้าที่ และไม่ได้ลังเลใจอะไร จนในที่สุดได้เป็นทหารเกณฑ์ฝึกอยู่ที่กองทัพอากาศ

เขาเล่าว่า เมื่อสมัครทหารเกณฑ์ ตอนนั้นไม่คิดอะไร เพราะเป็นหน้าที่ แถมยังแอบตื่นเต้นด้วยซ้ำ เพราะจะได้ใส่เครื่องแบบ และได้เจอเพื่อนใหม่ ในที่สุดเมื่อเข้าไปก็เข้าใจอะไรหลายอย่างของคนไทยมากขึ้น ได้เจอคนหลากหลาย เช่น คนอายุ 20 ปีเคยขับรถบรรทุก มีลูกสามบ้าง ซึ่งเรื่องแบบนี้ถ้าอยู่ในสังคมที่ตัวเองต้องอยู่คงไม่มีวันได้เจอ และสัมผัสด้วยตัวเอง 

นั่นจึงทำให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจทางการเมืองขึ้นในช่วงแรก เพราะเห็นปัญหาสังคมอย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยก็มีคนที่ยากลำบากอยู่มาก เรียกว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่ามือสัมผัส

 

“ฤกษ์อารี นานา” ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 17 พรรครวมไทยสร้างชาติ

 

ก่อนมาเป็นทหารเกณฑ์ก็เห็นคนพูดมาตลอดว่าอยากให้ ยกเลิก ซึ่งตัวเองที่เข้าไปสัมผัสแท้จริงแล้วก็มีทั้งดีและเสียต่างกันไป แต่ส่วนที่ดีนั้นประทับใจในหลักคือ เรื่องของการแก้ปัญหายาเสพติด 

เนื่องจากตอนที่เข้าไปในค่ายทหาร และเริ่มต้นฝึกช่วงอาทิตย์แรก มีทหารเข้าแถว 400 คน ในแถวกว่า 100 คน เกิดล้มวูบลงไป ซึ่งไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เป็นเพราะเคยติดยาเสพติดมาก่อน สุดท้ายคนกลุ่มนี้ก็ได้รับการบำบัด และหากไม่มีการเกณฑ์ทหาร คนกลุ่มนี้จะตกอยู่ในสังคม และไม่ได้รับการเยียวยา จนเป็นภัยต่อสังคมในอนาคตได้

อีกกรณีคือ คนติดเกม หรือติดคอมพิวเตอร์ เมื่อเข้ามาเป็นทหารจะโดนยึดมือถือ ทำให้ต้องกลับมาอยู่ในโลกของความเป็นจริง เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เด็กไทยมีโอกาสที่สองของชีวิต เปลี่ยนจากคนไม่เคยออกจากบ้าน ไม่เคยทำอาชีพอะไร ก็ทำให้เข้าสังคมและเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างได้

เรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การศึกษา เพราะคนที่เป็นทหารเกณฑ์หลายคนเรียนไม่จบป.6 แต่พอเข้ามาแล้วทหาร จะได้รับการเรียนกศน. ออกมาจากทหารก็ได้วุฒิ ม.6 ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ออกมาก็หางานทำได้ง่ายขึ้น รู้จักกฎระเบียบ อย่างไรก็ดีแม้เรื่องทั้งหมดนี้ จะแก้ปัญหาปลายเหตุ แต่อย่างน้อยก็คืนคนดีมีคุณภาพกลับสู่สังคมได้ 

เขายอมรับว่า ส่วนเรื่องไม่ดีก็มี และเป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไข แต่ไม่ใช่การยกเลิก เพราะถือว่าง่ายเกินไป โดยสิ่งที่ต้องทำคือการ แก้ที่ตัวบุคคลไม่ใช่แก้ที่ตัวกฎหมาย โดยไม่ปล่อยให้คนพวกนี้อยู่ในแวดวงทุจริต และราชการ เพราะแม้จะมีกฎหมายออกมา แต่ก็แก้ที่คนไม่ได้ สุดท้ายแล้วก็มีไม่ดีคนเดิม เข้ามาทำอะไรเหมือนเดิม

 

“ฤกษ์อารี นานา” ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 17 พรรครวมไทยสร้างชาติ

 

ตั้งใจเข้าการเมืองด้วยตัวเอง

เรื่องหนึ่งที่หลายคนชอบถามว่าเข้ามาในแวดวงการเมืองได้อย่างไร มีใบเบิกทางอะไรมาหรือไม่ “ฤกษ์อารี” อธิบายก่อนเลยว่า ผมเจอถามเรื่องนี้มาตลอดว่า ทำไมมาพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนามสกุลนานา และ คุณเล็ก นานา หนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง จริง ๆ ผมเข้ามาการเมือง เพราะไม่ได้เข้ามาพึ่งบารมีของบรรพบุรุษ แต่ตั้งใจมาด้วยตัวเอง 

พร้อมกันนี้ได้ปรึกษากับครอบครัว โดยเฉพาะพ่อ คือ คุณไกรฤกษ์ นานา ก็ไม่ได้ห้ามที่จะเข้ามาในวงการการเมือง เพียงแต่เป็นห่วงงานที่ทำอยู่กับสถานทูตฝรั่งเศสเท่านั้นว่า จะเป็นอย่างไร แต่เมื่อเคลียร์แล้วก็ได้เวลาเดินหน้าตามฝันต่อ

เขายอมรับว่า ที่เข้ามาเพราะมีเรื่องหนึ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจมานาน ก่อนจะกลับมาไทย คือคนที่จบเมืองนอกมาเหมือนกัน โดยเฉพาะที่ฝรั่งเศส แล้วพูดถึงความเท่าเทียม อะไรต่าง ๆ ในสังคม แล้วอ้างประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส แต่อยากให้ดูว่า ฝรั่งเศสก็ไม่ได้เจริญขึ้นมากกว่า 400 ปีที่แล้วไม่ได้มีความเท่าเทียมกัน ก็ยังมีชนชั้นเหมือนเดิม ซึ่งเกิดขึ้นจากระบบทุนนิยม รัฐบาลต้องลดความเหลื่อมล้ำนั้นในสังคม

อย่างไรก็ดีมองว่า ปัจจุบันประเทศไทยดีที่สุด และดีมากกว่านี้ได้แต่ต้องปรับปรุงแก้ไข โดยไม่ใช้วิธีการยกเลิก ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นการทำการเมืองที่ง่ายเกินไป และที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำให้วิถีชีวิตคนดีขึ้นถ้าไม่มีหลักในตัวเอง 

“เรื่องแพ้ชนะก็ต้องว่ากันไป ก็เป็นห่วงคนรุ่นใหม่เหมือนกัน ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่จบเมืองนอกมาก็ไม่อยากให้คนไทยสรรเสริญต่างชาติมากเกินไป เพราะคนไทยก็มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ดี และต้องปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้น ไม่อยากเห็นคนรุ่นใหม่ด้อยค่าตัวเอง ให้มองประเทศไทยดีกว่านี้เป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่านี้และมีความหวังไม่ใช่ต้องย้ายประเทศ ผมก็มีเพื่อนฝรั่งเศสย้ายมาไทย และเขาก็สรรเสริญประเทศไทยดีทุกอย่าง”

 

“ฤกษ์อารี นานา” ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 17 พรรครวมไทยสร้างชาติ

 

พร้อมหาทางพัฒนาอาชีพ

อย่างไรก็ดีหากได้เข้ามาทำงานการเมือง ก็อยากใช้โอกาสในการถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมด และอยากให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไม่เหมือนยุโรป เพราะยุโรปเองไม่มีการเกษตร แต่ประเทศไทยมีสิ่งล้ำค่าคือการเกษตร ที่สามารถพัฒนาได้อีกมาก ที่สำคัญ คือการเกษตรจะช่วยให้คนไม่ทิ้งพื้นที่ทิ้งบ้านตัวเองไป เป็นมนุษย์เงินเดือน เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องเข้าไปช่วยสนับสนุนอย่างถูกจุด และสร้างมูลค่าด้านการเกษตรขึ้นมา

“ฤกษ์อารี” ทิ้งท้ายว่า ประสบการณ์ที่มีของตัวเองจากต่างประเทศ และการทำงานด้านการทูต ทั้งสถานทูตฝรั่งเศส และทำงานกับคณะทูตหลายคณะ เห็นได้ชัดว่าประเทศไทยมีโอกาสบนเวทีโลกอีกมาก 

โดยเฉพาะเรื่องของความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญทางด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งในฐานะของชาวมุสลิมเองนั้น เขามองว่า เป็นโอกาสที่ดีของไทยมาก และมองว่าชาวหนองจอก และคลองสามวาจะมีส่วนร่วมด้วย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรเป็นจุดขายในการส่งออกข้าวไทยมุสลิมในพื้นที่ผ่านการประชาสัมพันธ์ที่ดีออกไปให้ได้ เชื่อว่าตะวันออกกลางต้องให้ความสนใจแน่นอน

ข้อมูล “ฤกษ์อารี นานา” พรรครวมไทยสร้างชาติ

การศึกษา

  • มัธยม โรงเรียนอัสสัมชัญ
  • ปริญญาตรี รัฐศาสตร์การเมืองการปกครองจาก Institut Catholique de Vendee ประเทศฝรั่งเศส 
  • ปริญญาโท เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาจาก SOAS University of London ประเทศอังกฤษ

การทำงาน

  • เจ้าหน้าที่สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ "ฤกษ์อารี นานา" ได้ที่ เฟซบุ๊ก ฤกษ์อารี นานา

 

“ฤกษ์อารี นานา” ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 17 พรรครวมไทยสร้างชาติ