KEY
POINTS
แหล่งข่าวผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายใหญ่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า กรณีกัมพูชา ตัดสินใจจัดหากระแสไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ตเองโดยไม่ต้องพึ่งพาการซื้อจากไทย ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 12 มิถุนายน 2568 โดยกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา และผู้ประกอบการโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงจะยุติการซื้ออินเตอร์เน็ตจากไทย นั้นมองว่าไม่กระทบกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตของไทย เนื่องจากตลาดหลักยังเป็นบริการในประเทศ
ส่วนตลาดกัมพูชานั้นตลาดมีขนาดไม่ใหญ่ และมีปริมาณการใช้งานไม่สูงมากนัก ในทางตรงกันข้ามเชื่อว่าอาจส่งผลดีกับประเทศไทยด้วย โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะเห็นปัญหาอาชญากรรมเทคโนโลยี ทั้งคอลเซ็นเตอร์ และ พนันออนไลน์ ลดลง
“เชื่อว่าการประกาศยุติซื้ออินเตอร์เน็ตจากไทยไม่กระทบกับผู้ให้บริการไทย แต่น่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และภาคธุรกิจของกัมพูชามากกว่า”
พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่าเหตุการณ์ที่ประเทศกัมพูชาประกาศตัดสายเคเบิลที่ใช้ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (บอร์ดแบนด์) ของเอกชนไทยที่เชื่อมโยงกับกัมพูชา นั้นจากการตรวจสอบเมื่อเช้าวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา การให้บริการอินเตอร์เน็ตของ NT ไปยังกัมพูชาพบว่าสัญญาณคุณภาพลดลง จึงได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
จากการตรวจสอบพบว่า สายเคเบิลที่ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังกัมพูชาเกิดการตัดใน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางจากอรัญประเทศและเส้นทางจากเกาะกูด ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตในทั้ง 2 เส้นทางได้ ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบกับลูกค้าของ NT ที่เป็นบริษัทเอกชนไทยที่ประกอบธุรกิจในกัมพูชา ทำให้ไม่สามารถใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตในการทำธุรกิจได้ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ได้ว่าเป็นจำนวนเท่าไร
แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคมกล่าวว่า ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในไทยได้เชื่อมต่อสัญญาณโครงข่าย IPLC (International Private Leased Circuit) กับโอเปอเรเตอร์ในกัมพูชาเพื่อให้บริการลูกค้าธุรกิจทั้งในไทยและกัมพูชา แต่เมื่อทางโอเปอเรเตอร์กัมพูชาตัดการเชื่อมต่อ IPLC ทำให้ลูกค้าของทั้ง True และ AIS ที่ดำเนินธุรกิจในกัมพูชาประสบปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อผู้ใช้บริการของ AIS และ TRUE ที่อยู่ในประเทศอื่นด้วย เนื่องจากบางลิงก์ผ่านการเชื่อมต่อจากจุดนี้ไปยังจุดปลายทางของลูกค้าในประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบในตอนนี้ แต่บริษัทกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและหวังว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายในเร็วๆ นี้
ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการ IIG (International Internet Gateway) จากไทยที่มีการเชื่อมต่อกับประเทศกัมพูชา อาทิ บริษัทซิมโฟนี คอมมิวนิเคชัน จำกัด เป็นผู้ให้บริการ IIG รายแรกของประเทศไทยที่มีโครงข่ายเชื่อมต่อโดยตรงกับสายเคเบิลใต้น้ำหลายเส้น เช่น AAE-1, APG, และ MCT ซึ่งเชื่อมต่อกับประเทศกัมพูชาโดยตรงผ่านสายเคเบิล MCT (Malaysia-Cambodia-Thailand Submarine Cable) ที่มีความจุสูงถึง 30 Tbps
BB Connect ให้บริการ IIG โดยมีการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ IP Transit ชั้นนำทั่วโลก และมีการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ IIG อื่น ๆ ในประเทศ
บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT เป็นผู้ให้บริการ IIG รายเดียวที่มีโครงข่ายเชื่อมต่อโดยตรงกับสายเคเบิลใต้น้ำหลายเส้น ได้แก่ AAD, APG, SMW3, SMW4, FLAG, TIS และ AAE1 ซึ่งเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ IP Transit ชั้นนำทั่วโลก เช่น Google, Facebook, Microsoft, Amazon และ Netflix ผ่าน POP ที่สิงคโปร์, ฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร
ขณะที่กัมพูชา มีใช้โมบายอินเตอร์เน็ต 18.28 ล้านคน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบ้าน 708,234 คน รวมทั้งมีผู้ลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือ 20.6 ล้านคน และผู้ใช้โทรศัพท์ประจำที่หรือโทรศัพท์บ้าน 31,601 คน โดยกัมพูชามีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 4 ราย บริษัทโทรศัพท์บ้าน 4 ราย และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต 39 ราย