กระทรวงข้อมูลข่าวสารกัมพูชา ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องของกัมพูชาเพื่อคืนวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า นับตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนวันที่ 12 มิถุนายน 2568 สถานีโทรทัศน์กัมพูชาทุกช่องจะต้องหยุดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภท ขอให้เจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
โดยการสั่งห้ามออกอากาศภาพยนตร์ไทยนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2568 โดยมีสาเหตุมาจากการประกาศของสมเด็จฯ ฮุน มาเนต ว่ากัมพูชาจะหยุดซื้ออินเทอร์เน็ตจากประเทศไทยตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ซึ่งมีการอ้างถึงคำขู่ที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดียของไทยที่เรียกร้องให้ตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตที่ไทยส่งให้กัมพูชา
โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ฮุน มาเนต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กที่ระบุว่า ช่วงไม่นานมานี้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของไทยได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากกลุ่มหัวรุนแรงในไทย ซึ่งเรียกร้องให้ตัดการจ่ายไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตให้กับกัมพูชา
เพื่อลดความตึงเครียดและไม่ให้ปัญหายืดเยื้อ กัมพูชาจึงตัดสินใจจัดหากระแสไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตเองโดยไม่ต้องพึ่งพาการซื้อจากไทย ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 12 มิถุนายน 2568 กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา และผู้ประกอบการโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงจะยุติการซื้ออินเทอร์เน็ตจากไทย เนื่องจากกัมพูชามีศักยภาพเพียงพอในการจัดหาบริการอินเทอร์เน็ตเอง
ทั้งนี้ กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานยืนยันว่า กัมพูชามีกระแสไฟฟ้าพอเพียงสำหรับความต้องการภายในประเทศ โดยมีมาตรการฉุกเฉินเตรียมพร้อมหากมีการข่มขู่การตัดการเชื่อมต่อในอนาคต
ขณะที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ได้เสนอแนะให้รัฐบาลพิจารณาหยุดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทางช่องโทรทัศน์ทั้งหมด และอาจพิจารณาหยุดการนำเข้าสินค้าไทยทั้งหมดด้วย
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงสถานการณ์การส่งแรงงานกลับจากไทย ซึ่งสร้างความยากลำบากทั้งสองฝ่าย โดยประเทศไทยได้รับผลกระทบจากขาดแคลนแรงงานในหลายธุรกิจ