ดันบริการการเงินดิจิทัลสัญชาติไทย ‘Forward’ เทียบชั้นระดับโลก

นายจักรรัตน์ เรืองรัตนากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท รัตนากร แอสเซท จำกัด และประธานกรรมการ บริษัทฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าบริษัท รัตนากร เทคโนโลยี กรุ๊ป จำกัด ในกลุ่มรัตนากร แอสเซท ได้เข้าไปลงทุนเบื้องต้น 500 ล้านบาท ในกลุ่มบริษัทฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง จำกัด โดยบริษัทดังกล่าวเป็นโฮลดิ้งคอมพานี หรือยานแม่ ก่อตั้งขึ้นมาร่วมกับ ฟอร์เวิร์ด กรุ๊ป และไพร์มสตรีท กรุ๊ป เพื่อเข้าไปลงทุนเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบ (Impact Technology) บล็อกเชน และสินทรัพย์ดิจิทัล โดยต้องการเป็นผู้ให้บริการการเงินดิจิทัล และบล็อกเชน ระดับโลก

ทั้งนี้ตามแผนธุรกิจมีแผนเปิดบริษัทในกลุ่มฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง มากกว่า 10 บริษัท โดยจะทยอยเปิดให้บริการ โดยในปีนี้จะเปิดให้บริการ 4 บริษัท บริษัทแรก คือ ฟอร์เวิร์ด ดีไฟ (Forward DiFi) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการเงินแบบไร้ตัวกลาง และ ตลาดซื้อขายล่วงหน้า แบบไร้ศูนย์กลางของอนุพันธ์ที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโต รวมถึงฟอร์เวิร์ด ดิจิทัล แบงก์กิ้ง ฝากหรือปล่อยกู้ และเหรียญฟอร์เวิร์ดที่เป็นยูทิลิตี้ โทเคน

นายจักรรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่าภายหลังก่อนหน้านี้เปิดให้ AIR Drop ไปแล้ว 7 ล้านเหรียญฟอร์เวิร์ด โดยภายใน 8 วัน มีสมาชิกกลุ่มผู้ใช้เหรียญฟอร์เวิร์ด (Forwardian) ทั้งหมด1 แสนราย คาดว่าภายในปีนี้กลุ่มผู้ใช้เหรียญฟอร์เวิร์ด ทั้งหมด 1 ล้านราย โดยหลังจากนี้จะเร่งการสร้างอีโคซิสเต็มส์ เชื่อมเหรียญฟอร์เวิร์ดกับกลุ่มธุรกิจรัตนากร ที่ดูแลตลาด 15 แห่ง มีจำนวนแผงค้า 30,000 แผง ซึ่งต่อไปผู้ค้าสามารถนำเหรียญฟอร์เวิร์ด มาเป็นส่วนลดค่าเช่า ลดค่าน้ำค่าไฟ, โรงเรียน ที่สามารถนำเหรียญมาเป็นส่วนลดค่าเล่าเรียน รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด ธุรกิจโรงแรม หรือ ธุรกิจโรงงานปุ๋ย ที่สามารถนำเหรียญฟอร์เวิร์ดเป็นส่วนลด

ด้านนายวิฤทธิ์ วิจิตรวาทการ กรรมการบริหาร บริษัท ไพร์มสตรีท กรุ๊ป จำกัด ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ  ที่ปรึกษาด้านการเงินสายวาณิชธน และ ผู้บริหารกองทุน ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง กล่าวเสริมว่าจากการระดมทุนรอบไพรเวทฟันด์ ของ ฟอร์เวิร์ด ดีไฟ นั้นบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ GBV Capital เวนเจอร์แคป ที่เน้นลงทุนบล็อกเชนเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัล ระดับโลก และก่อนหน้านี้เข้าซื้อกิจการ Omisego (OMG) ได้ประกาศลงทุนในแพลตฟอร์ม Decentralized Derivative Exchange อย่างฟอร์เวิร์ด ดีไฟ มูลค่ารวมกว่า 1.6 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์มฟอร์เวิร์ด

โดยคาดว่าภายในไตรมาสแรก จะเปิดให้ผู้สนใจเข้าลงทุนในรอบสาธารณะ เพื่อเพิ่มมูลค่าเหรียญฟอร์เวิร์ด และขยายอีโคซิสเต็มออกไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้เม็ดเงินระดมทุนมากกว่ารอบไพรเวทฟันด์ 3 เท่า หรือประมาณเกือบ 5 พันล้านบาท

ขณะที่นายชานน จรัสสุทธิกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง และ ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า การให้บริการศูนย์แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ในไทยปัจจุบันเป็นเทคโนโลยีเก่า ที่ตามหลังสหรัฐอยู่ 8 ปี สิ่งที่ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง กำลังพัฒนานวัตกรรมด้านการเงินดิจิทัลของไทยให้เทียบเท่ากับผู้ให้บริการในสหรัฐ ทั้งบริการตลาดซื้อขายล่วงหน้าสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล แบบไร้ศูนย์กลาง

ส่วนนายอุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา บริษัท ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า ปีที่ผ่านมามีเม็ดเงินที่อยู่บนแพลตฟอร์ม DeFi ต่างๆ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การซื้อขายตราสารอนุพันธ์ของคริปโตเคอร์เรนซีใหญ่มาก โดยทั่่วโลกมีมูลค่าประมาณ 5 ล้านล้านบาท ต่อวัน ซึ่งฟอร์เวิร์ดคิดค่าธรรมเนียมที่  0.03% ขณะที่ผู้ให้บริการ DeFi  รายอื่นๆ คิดที่เฉลี่ย 0.12%  ซึ่งหากเข้าไปมีส่วนแบ่งตลาดได้เพียง 0.1% ภายใน 1 ปี จะมีรายได้ถึง 1,000 ล้านบาท