Play
"วัซซาดุดอตคอม" เปิดตัว "Material Cloud Library" ฟีเจอร์ใหม่ พร้อมเชื่อมต่อเทคโนโลยี AI
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
Wazzadu.com (วัซซาดุดอตคอม) เว็บไซต์แพลตฟอร์มสัญชาติไทย เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ "Material Cloud Library" ที่ใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) เพื่อรองรับการทำงานในยุคดิจิทัล
นายจุลเกียรติ สินชัยชูเกียรติ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Wazzadu.com (วัซซาดุดอตคอม) กล่าวถึงการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในครั้งนี้ ว่า ปัจจุบันตลาดอุตสาหกรรม Building Material มีมูลค่าการเติบโตกว่า 7 แสนล้านบาทต่อปี โดยมีสถาปนิก อินทีเรีย และผู้รับเหมาเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก และถือเป็น Influencer ที่สำคัญของตลาดอสังหาฯ ทำให้ Wazzadu.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม B2B ในแวดวงวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน เล็งเห็นสัญญาณที่ดีในการเติบโตทางธุรกิจ อ้างอิงจากยอดการใช้งานบนแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า และมียอดซัพพลายเออร์เข้าใช้บริการมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา เราจึงพัฒนาฟีเจอร์ Material Cloud Library ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนาแพลตฟอร์มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของสถาปนิกและนักออกแบบในยุดดิจิทัล 4.0 ที่มีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ฟีเจอร์ใหม่ยังสามารถแนะนำวัสดุให้ตรงกับภาพร่างการออกแบบของสถาปนิกได้อีกด้วย โดยเราเปิดตัวฟีเจอร์ดังกล่าวครั้งแรกในงานสัมมนา Wazzadu Talk ประจำปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งเราวางแนวทางให้แพลตฟอร์มของเราช่วยให้วงการสถาปนิก นักออกแบบ ตลอดจนผู้ผลิตเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างรวดเร็ว และตรงตามความต้องการมากที่สุด
[caption id="attachment_347379" align="aligncenter" width="503"]
©www.wazzadu.com[/caption]
สำหรับฟีเจอร์ Material Cloud Library พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยอาศัยรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานที่เน้นความอิสระ แต่ต้องเข้าถึงข้อมูลวัสดุในการออกแบบได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บวัสดุ ซึ่งถือเป็นพื้นที่สิ้นเปลืองอย่างมาก แก้ปัญหาข้อมูลนวัตกรรมไม่ทันสมัย และที่สำคัญ คือ ลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อน จึงช่วยให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยฟีเจอร์ Material Cloud Library มีประโยชน์หลัก 3 ประการ คือ
1.Manage สามารถจัดการวัสดุในการออกแบบได้อย่างเป็นระบบ สำหรับการบริหารโครงการต่าง ๆ โดยมีความพิเศษ คือ สามารถถ่ายรูปจากวัสดุจริงแล้วบันทึกเข้า Library หรือ "ฐานข้อมูล" ได้ทันที
2.Collaborate สามารถจัดกลุ่มทำงานเป็นทีมในแต่ละโครงการได้อย่างเป็นระบบ
3.Update สามารถเข้าถึงข้อมูลนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งด้านวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยีทางการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว
นายจุลเกียรติ สินชัยชูเกียรติ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Wazzadu.com (วัซซาดุดอตคอม) กล่าวถึงการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในครั้งนี้ ว่า ปัจจุบันตลาดอุตสาหกรรม Building Material มีมูลค่าการเติบโตกว่า 7 แสนล้านบาทต่อปี โดยมีสถาปนิก อินทีเรีย และผู้รับเหมาเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก และถือเป็น Influencer ที่สำคัญของตลาดอสังหาฯ ทำให้ Wazzadu.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม B2B ในแวดวงวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน เล็งเห็นสัญญาณที่ดีในการเติบโตทางธุรกิจ อ้างอิงจากยอดการใช้งานบนแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า และมียอดซัพพลายเออร์เข้าใช้บริการมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา เราจึงพัฒนาฟีเจอร์ Material Cloud Library ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนาแพลตฟอร์มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของสถาปนิกและนักออกแบบในยุดดิจิทัล 4.0 ที่มีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ฟีเจอร์ใหม่ยังสามารถแนะนำวัสดุให้ตรงกับภาพร่างการออกแบบของสถาปนิกได้อีกด้วย โดยเราเปิดตัวฟีเจอร์ดังกล่าวครั้งแรกในงานสัมมนา Wazzadu Talk ประจำปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งเราวางแนวทางให้แพลตฟอร์มของเราช่วยให้วงการสถาปนิก นักออกแบบ ตลอดจนผู้ผลิตเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างรวดเร็ว และตรงตามความต้องการมากที่สุด
[caption id="attachment_347379" align="aligncenter" width="503"]
สำหรับฟีเจอร์ Material Cloud Library พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยอาศัยรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานที่เน้นความอิสระ แต่ต้องเข้าถึงข้อมูลวัสดุในการออกแบบได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บวัสดุ ซึ่งถือเป็นพื้นที่สิ้นเปลืองอย่างมาก แก้ปัญหาข้อมูลนวัตกรรมไม่ทันสมัย และที่สำคัญ คือ ลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อน จึงช่วยให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยฟีเจอร์ Material Cloud Library มีประโยชน์หลัก 3 ประการ คือ
1.Manage สามารถจัดการวัสดุในการออกแบบได้อย่างเป็นระบบ สำหรับการบริหารโครงการต่าง ๆ โดยมีความพิเศษ คือ สามารถถ่ายรูปจากวัสดุจริงแล้วบันทึกเข้า Library หรือ "ฐานข้อมูล" ได้ทันที
2.Collaborate สามารถจัดกลุ่มทำงานเป็นทีมในแต่ละโครงการได้อย่างเป็นระบบ
3.Update สามารถเข้าถึงข้อมูลนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งด้านวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยีทางการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว
