รายงาน The State of Global Air Quality Funding 2025 เปิดเผย ทิศทางเงินทุนพัฒนาระหว่างประเทศด้านคุณภาพอากาศที่น่ากังวล โดยพบว่าเม็ดเงินสนับสนุนโครงการปรับปรุงคุณภาพอากาศกลางแจ้งลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่เงินทุนที่เกี่ยวข้องกับการต่ออายุการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลระบุว่า งบประมาณสำหรับโครงการที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการปรับปรุงคุณภาพอากาศกลางแจ้ง (outdoor air quality funding) ลดลง 20% ภายในหนึ่งปี จาก 4.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 เหลือ 3.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 ซึ่งเป็นทิศทางที่สวนทางกับความจำเป็นด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมที่ยังคงทวีความรุนแรงทั่วโลก
ในทางกลับกัน รายงานระบุว่าเงินทุนที่สนับสนุนโครงการซึ่งมีผลต่อการยืดอายุการใช้พลังงานฟอสซิล (fossil fuel-prolonging funding) เพิ่มขึ้นถึง 80% จาก 5.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 เป็น 9.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023
รายงานระบุว่า เม็ดเงินดังกล่าวสูงกว่าเงินที่จัดสรรเพื่อโครงการอากาศสะอาดโดยตรงมากกว่า 2.5 เท่าในปีเดียวกัน สะท้อนความเหลื่อมล้ำในการจัดสรรทรัพยากร และชี้ให้เห็นว่าหลายประเทศยังคงได้รับเงินสนับสนุนด้านฟอสซิลในระดับสูงแม้มีปัญหามลพิษรุนแรง
รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่าในหลายกรณี ประเทศที่มีมลพิษสูงกลับได้รับเงินสนับสนุนฟอสซิลมากกว่าเงินที่ได้สำหรับการแก้ปัญหาคุณภาพอากาศโดยรวม
ในภาพรวม รายงานชี้ว่าการจัดสรรเงินทุนในลักษณะนี้สะท้อนความย้อนแย้งในระบบเงินทุนพัฒนาระดับโลก เพราะในขณะที่มลพิษอากาศยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพอันดับต้นๆ การเพิ่มเม็ดเงินให้โครงการที่เกี่ยวข้องกับฟอสซิลจะยิ่งสร้างภาระต่อคุณภาพอากาศและขัดกับความพยายามลดมลพิษในระยะยาว
นอกจากนี้ รายงานระบุว่าเงินทุนด้านคุณภาพอากาศกลางแจ้งยังคงมีสัดส่วนเพียง 1% ของเงินทุนพัฒนาระหว่างประเทศทั้งหมดตลอดช่วงปี 2019–2023 ซึ่งยิ่งตอกย้ำความจำเป็นในการพิจารณาทบทวนทิศทางการสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
รายงานสรุปว่าทิศทางเงินทุนปีล่าสุดสะท้อนภาพรวมที่ท้าทาย โดยเตือนว่าหากยังคงจัดสรรงบประมาณไปสู่โครงการที่ prolong ฟอสซิล การพัฒนาคุณภาพอากาศและผลลัพธ์ด้านสุขภาพในระยะยาวอาจไม่สามารถบรรลุได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง