KEY
POINTS
ซีคอนเปิดแผนธุรกิจปี 2569 เดินหน้าปรับองค์กรและขยายตลาดรับสร้างบ้านสู่ภูมิภาคเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หลังได้รับนโยบายจากบอร์ดบริหารชุดใหม่ ซึ่งมีทายาทตระกูลผู้ก่อตั้งขึ้นเป็นประธานกรรมการ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตเร็วกว่าเดิมและลดการพึ่งพาตลาดในกรุงเทพฯ เพียงพื้นที่เดียว
ทั้งนี้ นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เปิดเผยว่าแนวคิดสำคัญของการขยับครั้งนี้คือการขยายฐานสร้างบ้านออกสู่จังหวัดที่มีศักยภาพสูงตามเทรนด์การขยายเมืองและการลงทุนภาคอุตสาหกรรม
นายมนู ยังระบุว่า แม้ตลาดรับสร้างบ้านเป็นเพียงส่วนย่อยของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่การแข่งขันและปัญหาภายในอุตสาหกรรมก่อสร้างยังมีความท้าทายอย่างมาก เช่น ความไม่ซื่อสัตย์และการทุจริตที่เกิดขึ้นตั้งแต่ผู้รับเหมาขนาดเล็กไปจนถึงบริษัทใหญ่ในตลาดทุน ทำให้บริษัทต้องเข้มงวดเรื่องระบบควบคุมงาน ตรวจสอบผู้รับเหมาเป็นรายราย ทั้งด้านประวัติ การเงิน และศักยภาพการบริหารแรงงาน
ในด้านการขยายพื้นที่ทำตลาด ซีคอนเลือก EEC เป็นสมรภูมิแรก เนื่องจากเห็นว่าเป็นเมกะโปรเจกต์ที่มีความชัดเจนที่สุดของรัฐและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโต เช่น ทางหลวงตัดใหม่ที่เชื่อมกรุงเทพฯ ถึงระยองแบบไร้ไฟแดง แม้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมด แต่ดีมานด์จากโรงงานของจีนและญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิต รวมถึงราคาที่ดินที่ยังไม่สูงมาก ทำให้พื้นที่นี้มีความพร้อมรองรับการเติบโตในระดับอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย
การบุกตลาดครั้งนี้เริ่มจริงจังตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ทั้ง Facebook, YouTube, IG และ TikTok โดยพบว่าความสนใจต่อการสร้างบ้านในโซนชลบุรีและฉะเชิงเทราสูงที่สุด คิดเป็นมูลค่าราว 40 ล้านบาท ขณะที่ตราดเป็นจังหวัดเดียวที่ยังไม่มีลูกค้า ขณะเดียวกันยังมีลูกค้าจากจังหวัดที่ซีคอนไม่เคยทำตลาดมาก่อน เช่น สุพรรณบุรี ชัยนาท ลพบุรี และราชบุรี ซึ่งสะท้อนโอกาสเติบโตของตลาดบ้านคุณภาพในจังหวัดรอบกรุงเทพฯ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอสู่ตลาดภาคตะวันออก ซีคอนใช้แบบบ้าน Home Series รวม 14 แบบ ทั้งบ้านชั้นเดียวและสองชั้น โดยราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท สูงสุด 5.59 ล้านบาท พร้อมสิทธิประโยชน์เทียบเท่าลูกค้าในกรุงเทพฯ เช่น การใช้ชิ้นส่วนสำเร็จรูปจากโรงงาน SF การรับประกันโครงสร้าง 20 ปี และบริการขนส่งฟรีในระยะ 200 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบเชิงต้นทุนเมื่อเทียบกับผู้รับเหมาท้องถิ่น
ด้านการบริหารแรงงานและผู้รับเหมา บริษัทมีช่างก่อสร้างรวมเกือบ 1,000 คน และผู้รับเหมาหลักกว่า 200 ราย โดยทุกคนต้องมีสัญญาอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ระบบหยิบมาใช้เหมือนในอดีต พร้อมตรวจสอบความพร้อมด้านการเงินและความโปร่งใสก่อนรับงาน ทั้งนี้นายมนูระบุว่า “ปัญหาก่อสร้างไม่ได้อยู่ที่คนงาน แต่เริ่มต้นจากผู้รับเหมาที่ต้องมีระบบควบคุมชัดเจน”
ในส่วนโรงงานผลิต ซีคอนมีโรงงานอ่อนนุชซึ่งเปิดมากว่า 30 ปี บนพื้นที่ 12 ไร่ รองรับกำลังการผลิตสูงสุด 50,000 ชิ้น และปัจจุบันเดินเครื่องราว 60% แม้ถูกล้อมรอบด้วยโครงการที่อยู่อาศัยจนต้องบริหารผลกระทบด้านเสียงและสิ่งแวดล้อม ขณะที่โรงงานคลอง 12 ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรองรับการขยายงาน ใช้กำลังการผลิตราว 50% และเป็นฐานตัวเลขรายงานผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกของปี
สำหรับแผนสาขาใหม่ บริษัทกำลังประเมินว่าควรตั้งสาขา EEC ที่ชลบุรีหรือระยอง โดยข้อมูลล่าสุดชี้ว่าชลบุรียังมีศักยภาพเศรษฐกิจสูงกว่า ขณะที่เขตฉะเชิงเทรากำลังเติบโตตามการขยายตัวของโรงงานจำนวนมาก ส่วนพื้นที่ห่างไกลอย่างจันทบุรีและตราดยังเล็กและมีข้อจำกัดด้านความมั่นคง ทำให้บริษัทพิจารณากระจายงานผ่านสาขาระยองแทน นอกจากนี้ยังมีแผนบุกตลาดภาคอีสานในปีหน้า โดยอยู่ระหว่างพิจารณาตั้งศูนย์ที่โคราชหรือขอนแก่น และอาจต้องมี Open Yard หรือมินิโรงงานเพื่อรองรับการส่งชิ้นส่วนก่อสร้าง
ทั้งนี้ ตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศมีมูลค่าราว 200,000 ล้านบาท แต่ธุรกิจรับสร้างบ้านมีสัดส่วนเพียง 20,000 ล้านบาท เปรียบเสมือนเรือประมงที่กำลังหาปลาอยู่ในส่วนเล็ก ๆ ของมหาสมุทร การขยายไปสู่ EEC และต่างจังหวัดคือการออกเรือไปหา “แหล่งปลาที่ใหญ่ขึ้น” เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมรับสร้างบ้านของไทยในภาพรวม นายมนู กล่าวทิ้งท้าย