KEY
POINTS
ธุรกิจเวลเนส (Wellness) ขยายตัวสูงและกลายเป็นจุดสนใจของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อใช้เป็นจุดแข็งและจุดขายตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร สะท้อนจากผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและการมีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้น หลังสถานการณ์โควิด บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจส่งเสริมสุขภาพมาอย่างยาวนาน
พลิกโฉมที่ดินจาก สำนักงานพระคลังข้างที่ จำนวน 2 ไร่ พัฒนามิกซ์ยูส เวลเนส เรสซิเดนซ์ (Mixed-Use Wellness Residence) ภายใต้โครงการ มนตรา เจ้าพระยา-เจริญกรุง มูลค่า 2,200 ล้านบาท ทำเล ศักยภาพ บนที่ดิน ซอยเจริญกรุง 39 จุดตัดถนนสี่พระยา-เจริญกรุง ใกล้แม่นํ้าเจ้าพระยา แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ มหานคร ซึ่งประเมินว่าเป็นที่ดินผืนสุดท้ายใจกลางเมืองที่หายากยิ่ง ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ แม้สภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะเผชิญกับการชะลอตัว ในทางตรงกันข้าม CMC มีความมั่นใจ จากการลงทุนโครงการดังกล่าวที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
นายวรัทภพ แพทยานันท์ กรรมการบริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน)หรือ CMC เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทเปิดตัวโครงการ มนตรา เจ้าพระยา-เจริญกรุง โครงการมิกซ์ยูส รูปแบบเวลเนส เรสซิเดนซ์ ล่าสุดได้รับการตอบรับที่ดี โดย แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3โครงการ
ได้แก่ เรสซิเดนซ์ รีเทล และโรงแรม สร้างความหลากหลาย ให้กับลูกค้าเข้าไปใช้ชีวิต ทั้งศูนย์สุขภาพ ความปลอดภัย รวมถึงความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งครบวงจร โดยที่อยู่อาศัยมีจำนวน 292ยูนิต เปิดตัวเริ่มต้นที่ 118 ยูนิตในขณะนี้ที่ดินที่ตั้งโครงการเป็นสัญญาเช่าระยะยาว 30ปี มูลค่าเฉพาะที่ดิน 300-400ล้านบาทตลอดอายุสัญญา ซึ่งนับเป็นโครงการแห่งแรกบนทำเล ตัดกับถนนสี่พระยา -เจริญกรุง บริเวณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ ย่านที่ใครหลายคนรู้จักดี
ส่วนแปลงที่ดินประมูลมาจากสำนักงานพระคลังข้างที่ จำนวน2ไร่ มองว่ามีศักยภาพสูง สร้างผลตอบแทนระยะยาวได้ เมื่อเทียบกับพื้นที่โดยรอบเนื่องจากเป็นทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจมีต่างชาติใช้ชีวิตจำนวนมาก ทำให้มีความได้เปรียบ ทั้งแง่ของการเดินทางเข้า-ออกเมือง และไฮไลต์ ทำเลยังตั้งอยู่ใกล้แม่นํ้าเจ้าพระยา เชื่อมต่อถึงเยาวราช ศูนย์กลางธุรกิจแห่งแรกของไทย ซึ่งเป็นย่านวัฒนธรรมเก่าแก่ แหล่งรวม กิน ช้อป เที่ยวในคราวเดียวกันจึงเป็นไปได้ที่มีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจ
ขณะเดียวกันพื้นที่โดยรอบยังเป็นย่านที่เต็มไปด้วยโครงการขนาดใหญ่ของภาคเอกชนราคาต่อตารางเมตรค่อนข้างสูง แต่สำหรับของบริษัท มีจุดที่ได้เปรียบ โดยราคาไม่ถึง 1 แสนบาทต่อตารางเมตร เนื่องจากเป็นที่เช่าจึงทำราคาได้ดี ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการทำงานไทยระยะยาวใช้ชีวิตดูแลสุขภาพในบั่นปลาย หรือผู้ปกครองซื้อเก็บไว้ เพื่อบุตรหลานเรียนหนังสือในอนาคต
แลกกับการหาที่จอดรถในเมืองที่นับวันจะหาได้ยาก นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ คลินิก คอมเมอร์เชียล จำนวน 5 ชั้น มีแหล่งกิน ช้อป ออกกำลังกาย ศูนย์ดูแลสุขภาพ ดูแลผู้สูงอายุ และที่เลือกทำเลดังกล่าวเพราะมีความตั้งใจประกอบกับปีนั้น (2 ปีก่อน) สำนักงานพระคลังข้างที่ เปิดประมูลที่ดิน บริษัท จึงเข้าไปแข่งขันท่ามกลาง ดีเวลลอปเปอร์รายอื่นที่ต้องการที่ดินแปลงเดียวกันจำนวนไม่น้อย
เพราะทำเลค่อนข้างได้เปรียบสามารถดึงลูกค้าสามย่านจุฬาฯ เข้ามาในพื้นที่ อีกทั้งราคาถูกกว่าแต่เป็นย่านธุรกิจใกล้เมือง ขณะที่การพัฒนาได้ให้ความสำคัญของชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย แห่งแรกบนย่านเจริญกรุงผสานชีวิตร่วมสมัยกับวัฒนธรรมเก่าภายใต้คอนเซ็ปต์ “Harmonizes its soul” ดังนั้น โครงการ มนตราเจ้าพระยาฯ จึงเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญเติมเต็ม ให้กับย่านดังกล่าวมีความสมบูรณ์ขึ้น
โดยมองว่า ย่านเจริญกรุง ยังคงเป็นย่านแห่งการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และคุณภาพการอยู่อาศัย พร้อมตั้งใจพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ สุขภาพและคุณภาพชีวิต ควบคู่กับการมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมือง
ด้านนายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMC ตอกยํ้าว่าบริษัทฯ ได้รับสิทธิการเช่าที่ดินจากสำนักงานพระคลังข้างที่ รวมพื้นที่กว่า 37,000 ตารางเมตร บนทำเลทองย่านสี่พระยา เป็นระยะเวลา 30 ปี เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ มิกซ์ยูส ขนาดใหญ่ อาคารไฮไรส์ 27 ชั้น และ โลว์ไรส์ 6 ชั้น รวม 321 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท พร้อม
ศูนย์รวมบริการด้านสุขภาพและการดูแลแบบองค์รวม รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยยุคใหม่อย่างครบถ้วน จุดแข็งสำคัญคือทำเลเจริญกรุง ซึ่งเชื่อมต่อย่านเก่าแก่ เช่น ตลาดน้อย ทรงวาด เยาวราช และสำเพ็ง เข้ากับโซน CBD สีลม-สาทร รายล้อมด้วยแหล่งงาน สถานศึกษาชื่อดัง และไลฟ์สไตล์ครบครัน ผู้อยู่อาศัยจึงได้สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมดั้งเดิมควบคู่กับความทันสมัยได้อย่างลงตัว
ขณะที่แนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านเจริญกรุงยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นทำเลที่มี ซัพพลาย จำกัด แต่ดีมานด์ สูง ทั้งจากผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริงและนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและการพักผ่อนในที่เดียว อีกทั้งเทรนด์ Wellness Living กำลังเติบโตทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้โครงการ มิกซ์ยูส เวลเนส เรสซิเดนซ์ แห่งแรกของเจริญกรุงมีความแตกต่างและโดดเด่นอย่างชัดเจนในตลาด
“ความเชื่อมั่นของเรามาจากการพัฒนาโครงการที่ไม่เพียงสวยงามแต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในอนาคต ผู้ซื้อจึงมั่นใจได้ว่ามนตรา เจ้าพระยา-เจริญกรุง จะเป็นทั้งการอยู่อาศัยที่มีคุณค่า และการลงทุนที่ยั่งยืน”
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 45 ฉบับที่ 4,133 วันที่ 21-24 กันยายน พ.ศ. 2568