วิธีคิด‘สุรวุฒิ สุขเจริญสิน’ หัวใจการทำงานฝังในDNAของคน LPP

การบริหารดูแลความปลอดภัยในอาคาร คือหัวใจสำคัญ และถูกปลูกฝังไว้ใน DNA ของพนักงาน ภายใต้ปรัชญา“ชุมชนน่าอยู่” โดยมีเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำตลาด สำหรับ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จํากัด (LPP)  บริษัทบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ ครบวงจรในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN 

ย้อนไปก่อนหน้านี้ ในปี 2535 ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด โดยLPNเป็นผู้ถือหุ้น 99.88%ทุนจดทะเบียน เริ่มต้น 1,000,000 บาท มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้บริการด้านธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการบริหารอาคารแก่นิติบุคคลอาคารชุดของ LPN และโครงการต่างๆ บริษัทในเครือ ซึ่งเป็นการให้บริการหลังการขาย

สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพชีวิตของลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ขององค์กรถือเป็นนโยบายในการสร้างความแตกต่างและเป็นจุดแข็งในการแข่งขัน ต่อมาในปี 2564 ได้ปรับเปลี่ยนชื่อใหม่ให้มีความทันสมัย เป็น บริษัทแอล พี พี ฯ แทนลุมพินีฯ จนถึงปัจจุบัน

ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการระดับมืออาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยในโครงการต่างๆ ให้ ดำเนินไปได้อย่าง มีระเบียบราบรื่น ได้ทุกวัน  ซึ่งปัจจุบัน LPP ได้แยกตัวออกมาจากบริษัทแม่เพื่อความคล่องตัวโดยมีเป้าหมายขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้นและเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai

 “สุรวุฒิ สุขเจริญสิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LPP สะท้อนวิธีคิดการบริหารอาคาร ผ่านคอลัมน์ซีอีโอ โฟกัส “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามีความมุ่งหวังที่จะให้บริการที่มากกว่าแค่การดูแลรักษาอาคาร พื้นที่ส่วนกลางให้มีสภาพสมบูรณ์สวยงามและพร้อมใช้งาน แต่ยังต้องการยกระดับคุณภาพที่ดีให้แก่สังคมการอยู่อาศัยความเป็นมืออาชีพและระบบการทํางานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง คือหัวใจ สําคัญของความสําเร็จกว่า 30 ปี ที่ได้มอบให้กับโครงการที่บริษัทบริหาร รวมไปถึงการสร้างสมดุลระหว่างผู้พักอาศัย ผู้ใช้บริการพื้นที่ คณะกรรมการนิติบุคคลคู่ค้าและสิ่งแวดล้อม

โดยวางยุทธศาสตร์ 5 ปีนับตั้งแต่ปี2565 สู่การเป็นหนึ่งในผู้นำ ในธุรกิจให้บริการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 2,300 ล้านบาท ในปี 2569 จากความมั่นใจของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดสำหรับธุรกิจนี้ ท่ามกลางการแข่งขันที่สูง โดยการเติบโตนี้มาจากการรุกขยายตลาด การขยายธุรกิจ ขอบเขตการให้บริการที่ครบวงจร  พร้อมทั้งสร้างธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภค  ทั้งงานด้านวิศวกรรม  งานซ่อมบำรุงอาคาร บริการงานสวน บริการกำจัดแมลง การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมไปถึงการวางโครงสร้างบริหารโครงการในรูปแบบของแฟรนไชส์

  ที่เป็นไฮไลต์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ขนาด 7.7 แมกนิจูด ที่ประเทศเมียนมา ทำให้รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพมหานคร LPN และ LPP ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก จากลูกค้าและเสียงสะท้อนผ่านในโลกโซเชียล ว่าอาคารของLPN ที่ LPP บริหารได้รับผลกระทบความเสียหายน้อยมากหลายอาคารแทบไม่มีผลกระทบ

สุรวุฒิ อธิบายว่า เนื่องจาก บริษัทเน้นการก่อสร้างโดยใช้บริษัทผู้รับเหมารายเดียว สามารถติดตามงานได้ง่ายหากเกิดปัญหา รวมถึงการใช้วัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้างที่ดีมีมาตรฐาน นอกจากการการออกแบบเผื่อการรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ตามที่กฎหมายกำหนด ขณะเดียวกันมองว่าในแง่การทำงาน ต้องสอดประสานทั้งทีมบริหาร พนักงาน รวมถึงลูกบ้านอย่างทันท่วงที เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัย การช่วยอพยพคนด้อยโอกาสคนสูงวัย เด็ก ภายใต้ข้อจำกัดการทำงานแข่งกับเวลาและความเสี่ยง เพื่อให้ทุกคนลงจากอาคารได้อย่างปลอดภัย

“เราให้ความสำคัญเรื่องคน ปลูกฝังวิธีการทำงาน แบบนี้ใน DNAของพนักงานมาตั้งแต่ปรัชญาชุมชนน่าอยู่ ซึ่งเป็นรูปแบบมาจาก ผู้บริหาร ซึ่งเป็นบุกเบิกอย่าง ทิฆัมพร เปล่งศรีสุขเป็นรูปแบบที่เราไม่ใช่แค่สร้างฮาร์ดแวร์ที่ดีอย่างเดียวหรือแค่บริการ แต่เป็นเพราะเราแคร์ถึงบุคคลรอบข้างที่ดูแลซึ่งทำให้เวลาเกิดเหตุแผ่นดินไหว จึงแก้ปัญหาได้เร็วและได้รับคำชื่นชม”

สุรวุฒิ  มองว่าเหตุแผ่นดินไหว แม้จะไม่เกิดขึ้นปล่อยครั้งในไทย แต่จากวิกฤตได้กลายเป็นโอกาส มีผลในระยะยาวที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทั้งที่จะซื้อโครงการคอนโดมิเนียม ของLPN การดูแลความปลอดภัยของ LPP ซึ่งเป็น เน็ตเวิร์ก ตั้งแต่ปรัชญา การดีไซน์โปรดักส์ที่เรียกว่าไม่ได้มีความอ่อนไหวกับความเสียหายได้ง่ายจากแผ่นดินไหวนั่นหมายความว่า ทุกอาคารมีความแข็งแรงและด้วยพันธมิตรที่แน่นแฟ้น

เมื่อเกิดเหตุ กลุ่มคนเหล่านั้น ยินดีกลับมาช่วยเหลือส่งผลให้สามารถซ่อมแซมปรับปรุงโครงการกลับไปได้เร็ว เหมือนสภาพเดิมก่อนเกิดแผ่นดินไหว โดยมีบริการครบวงจร รวมถึงมีกลุ่มแม่บ้านซึ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคมของเราเข้าไปทำความสะอาดที่บริษัทดูแลอยู่ 6,000 กว่าราย หนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จ เฟืองเล็กๆ แต่มีความสำคัญที่องค์กรให้การสนับสนุน ที่สำคัญบริษัทมีความพร้อมยกระดับการดูแลและรับมือแผ่นดินไหวเพิ่มมากขึ้นในอนาคตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกบ้านและผู้ใช้บริการในอาคาร

ปัจจุบัน LPP มีพอร์ตงานบริหารจัดการโครงการทั้งคอนโดมิเนียมพักอาศัย อาคารสำนักงานมากที่สุดในระบบถึง 300 โครงการ แบ่งเป็นบริหารคอนโดมิเนียมมากถึง 250 นิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรรประมาณ 30-50 นิติบุคคล ทั้งในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดย 60% เป็นโครงการของ LPN เอง และ 40% เป็นโครงการจากภายนอก ทั้งนี้จากชื่อเสียงของการบริหารจัดการโครงการ ให้กับ LPN ทำให้คอนโดมิเนียมของ LPN ปล่อยเช่าได้ง่ายและเป็นที่ต้องการในตลาด

อย่างไรก็ตาม แก่นแท้ของ  LPP  และ LPN  ได้สะท้อนผ่านปรัชญา “ชุมชนน่าอยู่” หัวใจสำคัญเป็นหลักการดำเนินงานขององค์กรมาอย่างยาวนาน ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์  ที่ลงตัว และนำไปสู่ความยั่งยืนที่น่าจับตายิ่ง!!