เผย 6 เทรนด์อสังหาฯ-บริการดาวรุ่ง รับสังคมสูงวัย ดันตลาดโตปีละ 5%

02 ก.ย. 2568 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ย. 2568 | 10:49 น.

ไทยกำลังเข้าสู่ “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” ในปี 2573 ภาคอสังหาฯ-บริการเครือข่ายเกี่ยวเนื่องจับตาธุรกิจดาวรุ่ง LWS ชี้ 6 ธุรกิจหลักเติบโตสูงจากกำลังซื้อผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

KEY

POINTS

  • ไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด เป็นโอกาสสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์และบริการที่เกี่ยวข้องเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 5%
  • 6 เทรนด์ธุรกิจดาวรุ่งเพื่อรองรับตลาดผู้สูงวัย ได้แก่ ที่อยู่อาศัยเฉพาะทาง, การรีโนเวทบ้าน, บริการดูแลที่บ้าน, เทคโนโลยี, สัตว์เลี้ยงบำบัด และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
  • ตลาดนี้มีศักยภาพสูงจากทั้งกำลังซื้อของผู้สูงอายุในประเทศที่คาดว่าจะสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2572 และความต้องการจากชาวต่างชาติที่เลือกไทยเป็นจุดหมายเพื่อการเกษียณ

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็น “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” (Super-aged Society) ในปี 2573 ซึ่งมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 28% ของประชากรทั้งหมด ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจบริการเกี่ยวเนื่องถูกยกให้เป็น “ดาวรุ่ง” ที่ต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับดีมานด์ใหม่ ๆ ของกลุ่ม Silver Age ที่มีศักยภาพทางการเงินสูง

ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาฯ ในเครือแอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการศึกษาแนวโน้มธุรกิจที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร พบว่าธุรกิจอสังหาฯ และบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุมีโอกาสเติบโตแม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยชี้ 6 ธุรกิจสำคัญที่จะขยายตัวชัดเจน ได้แก่

  • ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย (Senior Living Community) โครงการที่อยู่อาศัยที่ออกแบบด้วย Universal Design พร้อมบริการด้านสุขภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ทั้งขายและให้เช่า เหมาะกับกลุ่ม Early Senior และ Assisted Senior ที่ยังพึ่งพาตนเองได้หรือเริ่มต้องการการดูแล
  • ธุรกิจรีโนเวทบ้าน (Renovate to Senior Home) การปรับปรุงที่อยู่อาศัยเดิมให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เช่น ติดตั้งราวจับ ทำพื้นกันลื่น ปรับทางลาด เป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูง โดยเฉพาะในกลุ่มที่วางแผนเกษียณล่วงหน้า
  • ธุรกิจสัตว์เลี้ยงบำบัด (Pet Therapy) ตอบโจทย์สุขภาพจิตและความเหงาของผู้สูงอายุ โดยสามารถต่อยอดเป็นบริการเช่าสัตว์เลี้ยงหรือจัดฝึกเฉพาะทาง
  • บริการดูแลผู้สูงวัยที่บ้าน (Home Care) ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจสุขภาพ กายภาพบำบัด จัดยา ไปจนถึงการช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน เป็นตลาดที่เติบโตต่อเนื่องจากข้อจำกัดของครอบครัวรุ่นใหม่ที่ไม่มีเวลาดูแลใกล้ชิด
  • เทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุ เช่น ระบบตรวจจับการล้ม GPS Tracker Telemedicine และ Smart Home ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากกลุ่มวัยเกษียณที่คุ้นชินกับดิจิทัล
  • การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและไลฟ์สไตล์ (Medical & Silver Tourism) เจาะกลุ่มผู้สูงวัยที่ยังเดินทางได้ เน้นทัวร์ปลอดภัย โปรแกรมดูแลสุขภาพ และ Wellness Retreat ซึ่งไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวกลุ่มนี้

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า มูลค่าการใช้จ่ายของผู้สูงอายุไทยอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านบาทในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2572 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.3% จากจำนวนผู้สูงอายุที่จะเพิ่มจาก 13.8 ล้านคนในปัจจุบันเป็น 18 ล้านคนในอีก 5 ปีข้างหน้า

นอกจากดีมานด์ในประเทศแล้ว นายประพันธ์ศักดิ์ยังมองว่า ประเทศไทยถือเป็น Retirement Destination ที่ได้รับความนิยมจากผู้สูงอายุต่างชาติ โดยเฉพาะยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ที่เลือกเข้ามาพักอาศัยหรือลงทุนอสังหาฯ ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยและบริการเพื่อผู้สูงวัยมีโอกาสขยายตัวทั้งในเชิงดีมานด์และการลงทุน

การปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯ จึงเป็นมากกว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุโดยตรง แต่ยังต่อยอดไปสู่ธุรกิจบริการเสริม เช่น การรีโนเวทบ้าน เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม หรือแพ็กเกจท่องเที่ยวสุขภาพ เพื่อรองรับวิถีชีวิตแบบใหม่ของสังคมสูงวัยอย่างครบวงจร