KEY
POINTS
ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็น “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” (Super-aged Society) ในปี 2573 ซึ่งมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 28% ของประชากรทั้งหมด ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจบริการเกี่ยวเนื่องถูกยกให้เป็น “ดาวรุ่ง” ที่ต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับดีมานด์ใหม่ ๆ ของกลุ่ม Silver Age ที่มีศักยภาพทางการเงินสูง
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาฯ ในเครือแอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการศึกษาแนวโน้มธุรกิจที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร พบว่าธุรกิจอสังหาฯ และบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุมีโอกาสเติบโตแม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยชี้ 6 ธุรกิจสำคัญที่จะขยายตัวชัดเจน ได้แก่
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า มูลค่าการใช้จ่ายของผู้สูงอายุไทยอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านบาทในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2572 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.3% จากจำนวนผู้สูงอายุที่จะเพิ่มจาก 13.8 ล้านคนในปัจจุบันเป็น 18 ล้านคนในอีก 5 ปีข้างหน้า
นอกจากดีมานด์ในประเทศแล้ว นายประพันธ์ศักดิ์ยังมองว่า ประเทศไทยถือเป็น Retirement Destination ที่ได้รับความนิยมจากผู้สูงอายุต่างชาติ โดยเฉพาะยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ที่เลือกเข้ามาพักอาศัยหรือลงทุนอสังหาฯ ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยและบริการเพื่อผู้สูงวัยมีโอกาสขยายตัวทั้งในเชิงดีมานด์และการลงทุน
การปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯ จึงเป็นมากกว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุโดยตรง แต่ยังต่อยอดไปสู่ธุรกิจบริการเสริม เช่น การรีโนเวทบ้าน เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม หรือแพ็กเกจท่องเที่ยวสุขภาพ เพื่อรองรับวิถีชีวิตแบบใหม่ของสังคมสูงวัยอย่างครบวงจร