คอลัมน์ผ่ามุมคิด
โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี กลายเป็นความหวังของธุรกิจหลายกลุ่ม รวมถึงภาคการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ เพราะเมื่ออุตสาหกรรมขยายตัวไม่หยุด โครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทางถูกยกระดับ ย่อมดึงดูดให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามามากขึ้น โดยนายคริส เชิดสุริยา ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหาร เครือบริษัทในกลุ่มออเนอร์ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ชี้ “พัทยา” มีโอกาสกลายเป็นศูนย์กลางของ 3 จังหวัด หลังเมืองน่าอยู่ คนมีรายได้สูง ประกอบกับการลงทุนของรัฐและภาคเอกชนไม่ขาดสาย ช่วยส่งเสริมการเติบโตของพื้นที่ และจุดพลุตลาดอสังหาฯ เผยแผนปั้นมิกซ์ยูส ทำเลพัทยาเหนือ 3 พันล้านบาท รับโอกาสดีมานด์คนทุกกลุ่ม จากฐานะความเป็นเมืองระดับโลก
มหานครระดับโลก
จากภาพการเติบโตของพัทยาเกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่อดีตที่เป็นเพียงแหล่งเรือประมง สู่แหล่งพักผ่อนหย่อนใจของนักรบ และพลิกมาเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ แต่อนาคตพัทยากำลังจะถูกเปลี่ยนไปจากปัจจุบันอีก เพราะวันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการผลักดันภาคตะวันออก เพื่อให้เป็นต้นแบบในการพัฒนาภูมิภาคอื่นๆ โดยแม่เหล็กสำคัญ คือ โครงการอีอีซี ที่นำมาซึ่งโครงสร้างพื้นฐานการเดินทางสำคัญ คาดจะทำให้พื้นที่พัทยามีศักยภาพเติบโตสูงมาก เทียบเท่ามหานครหลายแห่งของโลก โดยเฉพาะในแง่การท่องเที่ยว หลังจากการคมนาคม 3 ด้าน คือ รถ ราง และเรือ จะเชื่อมต่อกัน มีความเป็นสากลสูง ที่จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวบูมก้าวกระโดด เปลี่ยนรูปแบบนักท่องเที่ยวไปจากเดิม
“พัทยา กำลังจะเป็นแหล่งรองรับของทั้งนักท่องเที่ยวและคนภาคตะวันออก ภาพเป็นมาก กว่าการท่องเที่ยว หลังจากรัฐบาลกำลังเดินหน้าพัทยาอุตสาหกรรม 4.0 ในพื้นที่พัทยาทั้งหมด ฉะนั้นกลุ่มคนที่จะเข้ามาจะเปลี่ยนรูปแบบไป มีโอกาสมากในกลุ่มไมซ์ ประชุมสัมมนาด้วย เพราะอนาคตเมืองจะมีรูปแบบการเติบโตที่ต่างไปจากอดีตจากแผนการลงทุนใหญ่ทุกด้าน”
คริส เชิดสุริยา
ศูนย์กลาง 3 จังหวัด
การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่โดยรอบของพัทยา ที่เกิดจากโครงการอีอีซี มุ่งยกระดับสาธารณูปโภคและขนส่งมวลชนต่างๆ ทั้งรถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายไปยังระยอง อู่ตะเภาและมาบตาพุด โดยคาดจะทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในเมืองดังกล่าวมากขึ้นนั้น มีส่วนส่งเสริมต่อรายได้ประเทศ เพราะเดิมเป็นเมืองที่เติบโตด้านการท่องเที่ยงรองจาก กทม. อยู่แล้ว โดยในปี 2562 พบมีอัตราเติบโตมากกว่า 6% และทำรายได้เข้าประเทศแล้วมากกว่า 2 แสนล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน ซึ่งเป็นเม็ดเงินประมาณ 10% ของภาคการท่องเที่ยวทั้งประเทศที่ 2 ล้านล้านบาท และคาดในอนาคตจะเติบโตสูงขึ้นอีก
“อนาคต 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จะรวมเป็นจังหวัดเดียวกัน ความเจริญเทียบเท่ากรุงเทพฯ ผ่านการเชื่อมด้วยรถไฟความเร็วสูง โดยมีพัทยาเป็นศูนย์กลาง ขณะเดียวกันพัทยาเอง ยังมียุทธศาสตร์รองรับกับอีอีซี ซึ่งจะทำให้เมืองมีความสมบูรณ์แบบน่าสนใจในทุกแง่”
พัทยาเหนือมาแรง
นายคริส กล่าวว่า ปัจจุบันโซนพัฒนาอสังหาฯในพัทยา แบ่งออกเป็น 4 โซนหลักๆ คือ พัทยาเหนือ, พัทยาใต้, พัทยากลาง และนาจอมเทียน แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าพื้นที่ในโซนพัทยาเหนือ น่าจับตามองในแง่โอกาสมากที่สุด เนื่องจากมีแลนด์มาร์กในเชิงท่องเที่ยวหลายแห่งทั้งยังเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองพัทยา และโดดเด่นในแง่การเดินทาง สัญจรได้ 2 ทาง มีระบบคมนาคมสำคัญ ใกล้ถนนสุขุมวิทและมอเตอร์เวย์ รวมถึงสถานีรถโดยสารขนส่งภายใน และสถานีรถไฟความเร็วสูง ขณะเดียวกันพบมีที่ดินแปลงใหญ่อีกหลายแปลง หากพื้นที่ดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นในรูปแบบต่างๆ พร้อมๆกัน ก็จะเกิดภาพการเติบโตของอสังหาฯในพื้นที่อย่างก้าวกระโดดเช่นกัน
ปั้นมิกซ์ยูสรับอีอีซี
ทั้งนี้ บริษัทในฐานะที่มีประสบการณ์พัฒนาอสังหาฯในพัทยาจำนวนมาก รวม 7 โครงการ ทั้งในกลุ่มโรงแรมและคอนโดมิเนียม เล็งเห็นโอกาสจากกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น จึงลุยพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ รวมโรงแรม คอนโดมิเนียมและส่วนค้าปลีก มูลค่า 3 พันล้านบาท บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ ถนนพัทยาสาย 3 (พัทยาเหนือ) เพื่อรองรับทั้งกลุ่มคนที่พักระยะสั้นและระยะยาว ประกอบไปด้วย คอนโดฯ ONCE PATTAYA ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้า ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70% และล่าสุดวางแผนพัฒนาโรงแรมขนาดใหญ่ 315 ห้อง และส่วนร้านค้า เพื่อหวังให้เป็นเดสติเนชันแห่งใหม่ของพัทยา คาดแล้วเสร็จในปี 2565 เน้นจับกลุ่มนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว โดยเชื่อโครงการดังกล่าวจะช่วยยกระดับความเป็นเมืองของพัทยาในแง่ชื่อเสียงระดับโลกขึ้นอีก นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ ทำเลใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูง ภายใต้แบรนด์ “โมชั่น” อีกด้วย คาดมูลค่าโครงการที่จะพัฒนาในช่วง 3-4 ปี ข้างหน้า แตะ 5 พันล้านบาท
หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,529 วันที่ 8-11 ธันวาคม 2562