“กฟผ.”เดินหน้ากลยุทธ์ DSM รุกอัปเกรดฉลากเบอร์ 5 โฉมใหม่

ประเทศไทยมีเป้าหมายสำคัญคือประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปีพ.ศ. 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2608ที่ประเทศไทยได้ให้คำมั่นสัญญาไว้บนเวทีการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ทำให้หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนต่างก็ต้องมีการปรับตัว เพื่อตอบรับกับนโยบายดังกล่าวในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายการเป็น Net Zero

สำหรับในภาคการผลิตไฟฟ้า ประเทศไทยได้ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 50% และลดการใช้พลังงานไม่ต่ำกว่า 30% เพื่อลดการปล่อกยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการผลิตและจัดหาไฟฟ้าของประเทศแล้ว ยังดำเนินการส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานโดยรวมของประเทศมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2536 ภายใต้การดำเนินงานการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า หรือ Demand Side Management (DSM) โดยมีโครงการที่คนไทยคุ้นเคยกันดีอย่าง “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5” ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้บริโภคในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับการรับรองว่ามีคุณภาพและประหยัดพลังงาน

- ยุทธศาสตร์ 3 อ.

การดำเนินงานการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้าของ กฟผ. ใช้กลยุทธ์ 3 อ. คือ อุปกรณ์ พัฒนาเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงาน และติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รวม 22 ผลิตภัณฑ์ อาคาร – อุตสาหกรรม ส่งเสริมมาตรการการใช้พลังงานในอาคาร การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพภายในบ้านและอาคาร ครอบคลุมทั้งบ้านอยู่อาศัย สำนักงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และอุปนิสัย สร้างการเรียนรู้และปลูกฝังนิสัยการใช้พลังงานอย่างประหยัดสู่เยาวชนภายใต้โครงการห้องเรียนสีเขียว จนสามารถกระตุ้นให้เกิดการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้ากว่า 35,600 ล้านหน่วย หรือประมาณ 1.78 แสนล้านบาท และนำไปสู่การลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่บรรยากาศลงกว่า 19.7 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์

- ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่

อย่างไรก็ดี เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น กฟผ. ได้เปิดตัวฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว รูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับความเข้มข้นของการประหยัดพลังงานควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม 2567 ประกอบด้วย

• เพิ่มเกณฑ์ประสิทธิภาพฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 จาก 1-3 ดาว เป็น 1-5 ดาว เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม
• แสดงปริมาณการลดการปล่อย CO2 ตลอดช่วงการใช้งาน เพื่อให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อนจากการเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5
• เพิ่มสัญลักษณ์กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Circular Economy) เพื่อขยายบทบาทของฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 จากช่วงการเลือกซื้อสู่การดูแลตลอดวงจรชีวิต (Life Cycle) ของอุปกรณ์
• เพิ่ม QR Code เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น อาทิ การใช้งาน การติดตั้งและการบำรุงรักษาตลอดจนข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์

- ต่อยอดสู่โรงเรียนเบอร์ 5

นอกจากนี้ กฟผ. ยังเดินหน้าต่อยอดสู่โครงการโรงเรียนเบอร์ 5 เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนบูรณาการองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมในทุกกิจกรรมสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์ 4 กิจกรรม ได้แก่ 1.โรงเรียนสีเขียว ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ,2.โรงเรียนคาร์บอนต่ำ ลดการใช้ไฟฟ้าในโรงเรียน ,3.โรงเรียนคาร์บอนต่ำสู่ชุมชน ลดการใช้ไฟฟ้าที่บ้านนักเรียน และ 4.อาคารเบอร์ 5 ในสถานศึกษา โดยมีเยาวชนผ่านกระบวนการเรียนรู้ภายใต้โครงการห้องเรียนสีเขียวแล้วกว่า 4 ล้านคน และเครือข่ายโรงเรียนกว่า 1,300 โรงเรียน

ดังนั้น DSM ที่ กฟผ. ดำเนินการ ถือเป็นส่วนสำคัญที่สร้างการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆในการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานของประเทศอย่างมหาศาลและเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขัน และการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในอนาคต