"สมคิด"ปักธงภูเก็ตพลิกอันดามันรอดสร้างอนาคตไทยรุ่ง

16 ก.ย. 2565 | 04:19 น.

พรรคสร้างอนาคตไทยปักธงภูเก็ต "สมคิด"นำผู้บริหารพรรคเต็มแผงขึ้นเวที ปลุกแผนฟื้นชู 3 เสาหลัก "ท่องเที่ยวสุขภาพ เกษตรสมัยใหม่ ดิจิทัลฮับ"ฟื้นอันดามันขับเคลื่อนประเทศ "อุตตม"รับข้อเสนอพื้นที่ไปต่อยอดเป็นนโยบายแก้ปัญหา  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 ก.ย. 2565 ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า พรรรคสร้างอนาคตไทย จัดเวทีพบปะชาวภูเก็ต ผู้นำธุรกิจ  นักธุรกิจ ในพื้นที่อันดามัน โดยมีผู้เข้าร่วมงานแน่นห้องประชุมชั้น 7 ประมาณ 500 คน และห้องประชุมชั้นล่าง และลานด้านหน้าโรงแรมอีกส่วนหนึ่งดูผ่านจอ LED นับเป็นเวทีแรกในส่วนภูมิภาค นับแต่พรรคเปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานพรรค และจะเสนอเป็นบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรคในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้

 

กิจกรรมนี้นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคฯ นำคณะผู้บริหารพรรคมากันพร้อมหน้า ทั้งนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคใต้ นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคอีสาน นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และประธานฝ่ายนโยบาย นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และประธานภาคกลาง เป็นต้น 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย นำผู้บริหารพรรคจัดเวทีพบปะประชาชนที่ภูเก็ต ก่อนเดินสายไปทั่วประเทศ

"สมคิด"ปักธงภูเก็ตพลิกอันดามันรอดสร้างอนาคตไทยรุ่ง

นายสมคิด ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการสัมมนา“อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง" ของพรรคสร้างอนาคตไทยที่ภูเก็ต ย้ำว่า   ตนมี 3 เสาที่จำเป็นในการพัฒนาพื้นที่อันดามัน 1.การเกษตรสมัยใหม่ที่มีมูลค่า ที่ต้องทำให้เป็นอาหารแห่งอนาคตและมีคุณภาพ 2.การท่องเที่ยวด้านสุขภาพ โดยต้องมีความสามารถเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ทั้งโรงพยาบาล แพทย์ และแหล่งท่องเที่ยว  และ 3.ดิจิตอลฮับ 

 

ปัจจุบันบริษัทหรือองค์กรใหญ่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ หากดึงมาตั้งศูนย์ที่ไทยได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพ และแหล่งเงินจากนอก หากพรรคได้เข้าไปเป็นรัฐบาลจะทำทันทีและไม่ยาก หากต้องการให้เศรษฐกิจเขยื้อน ต้องกระจายอำนาจและงบประมาณจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่น 

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย จัดเวทีภูเก็ตครั้งแรกหลังเปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานและบัญชีนายกฯของพรรค

"สมคิด"ปักธงภูเก็ตพลิกอันดามันรอดสร้างอนาคตไทยรุ่ง

นายสมคิดชี้ว่า การพลิกฟื้นอันดามันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนทั้งประเทศ ประเทศไทยมีความพร้อมทุกอย่าง การแก้ปัญหาจะใช้แนวคิดแบบเดิม ๆ ไม่ได้อีกแล้ว โดยทางพรรคมีแนวทางใหม่ในการแก้ ต้องทำให้ธุรกิจคนตัวเล็ก ๆ ที่พังไปไม่ต่างกับเจอสึนามิให้พื้นกลับคืนมา จะรอให้พี่น้องคนไทยต้องตายจากไปต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะจากวิกฤตโควิด-19 ที่ลากยาวมากว่า 2 ปีแล้ว

 

"ผมดีใจที่พวกเราใช้คำว่าอันดามัน ไม่ใช่แค่ภูเก็ต ทั้งโลกไม่ใช่แต่ภูเก็ตหรือจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง แต่เราต้องรวมพลัง เอาจุดแข็งของแต่ละคนแต่ละที่มารวมกัน เป็นการรวมพลังไข่มุกอันดามัน ร้อยสร้อยไข่มุก 3 เม็ด คือภูเก็ต พังงา กระบี่ เข้าด้วยกัน ให้เป็นแพ็กเกจใหญ่ มีระบบที่มีศักยภาพ จัดระบบโลจิสติกสให้มีพลัง เช่น มีสนามบินที่เดินทางติดต่อกันได้สะดวก สามารถเชื่อมโยงเข้าด้วยกันได้

 

และไม่เพียง 3 จังหวัดนี้ แต่เรายังมีระนอง ตรัง สตูล ที่ต้องเชื่อมให้ถึงกัน สร้างท่อเรือยอร์ชให้เดินเรือไปมาหากันได้เหมือนเป็นจังหวัดเดียวกัน แม้เรื่อง รถไฟรางเบา ที่จะสร้างโดยไม่กระทบสิ่งแวดล้อม ใครจะประมูลไม่สำคัญ จะเป็นไทยหรือเทศไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาทำยังไงให้มันเกิด ถ้ามัวขัดแย้ง ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศลาวรุดหน้าไปไกลกว่าบ้านเราแล้ว"

 

การพัฒนาเน้นภาคประชาชนต้องแข็งแรง มีผู้นำ โดยประชาชน ไม่ใช่ข้าราชการนำ เราต้องใช้การท่องเที่ยว เช่นระดมนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ เช่น 18 ล้านคน ไม่ใช่มีชายหาดให้ฝรั่งอาบแดดอย่างเดียว ต้องมีของดีโดยเฉพาะชุมชน ทั้งอันดามันโดยมีกองทุนสร้างอนาคตไทยเพื่อพัฒนาต่อยอด พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว

 

ด้าน ดร.อุตตม กล่าวว่า ได้เลือกภูเก็ตเป็นที่แรกในอันดามัน ด้วยเป็นพื้นที่หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และต่อไปจะมีการเดินสายจัดเสวนาในลักษณะนี้ทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน และภาคธุรกิจ ทั่วประเทศ เพื่อนำมาตกผลึกเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนทุกพื้นที่

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย

ซึ่งข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจในวันนี้ พรรคเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ และตอบรับจะนำไปจัดทำเป็นนโยบายของพรรคต่อไป โดยเรื่องเร่งด่วนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ พรรคสร้างอนาคตไทยมอง 3 เรื่อง สำคัญ คือ

 

1.)ต้องหยุดเลือดไหล เช่น ต้องแก้หนี้ พักหนี้ 7 ปี ไม่ใช่เพียงแค่ระยะสั้น 2-3 ปี 

2.)ให้ยา ซึ่งหมายถึงการจัดสรรเงินทุนผ่านกองทุนสร้างอนาคตไทย การตั้งคลินิกแก้หนี้ โดยใช้ระบบจ่ายคืนเงินต้นในรูปแบบหน้าต่ำ หลังสูง เพื่อให้ประชาชนชนและผู้ประกอบการ สามารถตั้งตัวได้ 

3.)เติมวิตามิน เสริมแกร่ง เพื่อสร้างรายได้และโอกาส โดยสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 5 ระยะเวลาผ่อนชำระ 7 ปี ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้ระบบงบประมาณในการเพิ่มสภาพคล่อง ให้ธนาคารรัฐร่วมช่วยเหลือ และรวมถึงจัดทำแอพพลิเคชั่นที่สร้างระบบเครดิตการค้า เพื่อเป็นเครดิตในการขอวงเงินหมุนเวียนเพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงธุรกิจ วงเงินเริ่มต้นตั้งแต่ 5 หมื่นถึง 5 ล้านบาท

 

รวมถึงการตั้งกองทุนสร้างอนาคตไทย เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พร้อมทั้งกำหนดให้ภาครัฐต้องจัดซื้อจัดจ้างกับภาคธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็ก การปรับปรุงระบบใบอนุญาตให้มีความทันสมัย เชื่อมโยงระบบคมนาคม เพื่อเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ 

 

"ต้องยอมรับว่าปัจจุบันสถานการณ์อยู่ในภาวะไม่ปกติ เป็นสถานการณ์วิกฤต ไม่สามารถใช้มาตรการเดิม ๆ ในการแก้ไขปัญหาได้ แต่ต้องใช้มาตรการที่ออกแบบมาเพื่อใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์วิกฤตโดยเฉพาะ" ดร. อุตตม กล่าว

 

ขณะที่วงเสวนา “อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง” โดยมี นายแพทย์บัญชา ค้าของ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ปรึกษาพิเศษนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสมยศ ปาทาน ประธานวิสาหากิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต นายเพิ่มเกียรติ เกษกุล นายกสมาคมการศึกษาเอกชนภูเก็ต นายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงา และนายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอแนวนโยบายที่ต้องการให้พรรคสร้างอนาคตไทยขับเคลื่อน เพื่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่อันดามัน 

 

อาทิเช่น การผลักดันโครงการ Andaman wellness corridor หรือการสร้างการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การผลักดันขับเคลื่อนการศึกษาให้เป็น Education hub การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงการท่องเที่ยวชุมชน เช่น โครงการมารีน่าชุมชน เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่ได้สนใจแค่การท่องเที่ยวกระแสหลัก แต่ยังสนใจเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น

 

การแก้กฎหมาย และกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจท่องเที่ยว เช่น โฮมสเตย์ โรงแรมขนาดเล็ก ที่ไม่เข้ามาตรฐานให้สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ การพัฒนาบุคลากร และแพลตฟอร์มการท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาพึ่งพาแพลตฟอร์มของต่างประเทศ สูญเสียเม็ดเงินปีละ 7-8 พันล้านบาท
 

 

นอกจากนี้ในที่สัมมนา ได้มีผู้นำองค์กรธุรกิจในพื้นที่อันดามัน ที่มีข้อมูลมานำเสนอเกี่ยวกับความคิดเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของภาคธุรกิจ รวมถึงส่งมอบข้อมูลให้กับตัวแทนพรรคฝากเป็นการบ้านเพื่อมีส่วนในการช่วยกันผลักดันแก้ไขปัญหาต่อไป